สระแก้ว - จังหวัดสระแก้ว จัดอบรมชี้แจงการจัดทำมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ ให้แก่นายจ้าง และลูกจ้างในจังหวัด เพื่อรณรงค์ ป้องกัน เฝ้าระวัง และสร้างภูมิคุ้มกันแก่สถานประกอบกิจการ
วันนี้ (16 ธ.ค.) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดโครงการอบรมประชุมชี้แจงเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ ประจำปีงบประมาณ 2558 ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระแก้ว ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบกำกับดูแลผู้ใช้แรงงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 และส่งเสริมสวัสดิการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยในการทำงานของแรงงาน
จุดประสงค์สำคัญเพื่อเสริมสร้างแนวคิดให้นายจ้าง และลูกจ้างได้ตระหนักถึงความสำคัญของโทษภัยจากยาเสพติด และการมีส่วนร่วมในการรณรงค์ ป้องกัน เฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดแพร่ขยายเข้าสู่สถานประกอบกิจการ และการสร้างภูมิคุ้มกันด้านยาเสพติด
นอกจากนี้ ยังให้นายจ้างใช้เป็นแนวทางในการส่งผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัด ด้วยการนำมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหาไปพัฒนาในสถานประกอบกิจการ
นายกรุณา แก้วน้อย สวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ดำเนินโครงการโรงงานสีขาว ตั้งแต่ปี 2544 โดยมีสถานประกอบกิจการเข้าร่วมและผ่านเกณฑ์ จำนวน 208 แห่ง ซึ่งสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการและผ่านเกณฑ์มาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ ในปี 2556 มีจำนวน 7 แห่ง
และในปี 2557 มีจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท สระแก้วเจริญ จำกัด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด สาขาสระแก้ว บริษัท วราภรณ์ แสนสุข การ์เมนท์ จำกัด บริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ฟาร์มสระแก้ว บริษัทน้ำตาลและอ้อยตะวันออก จำกัด บริษัท เกษตรอุตสาหกรรม จำกัด บริษัท อีเอส แวอร์ จำกัด บริษัท อี เอส วิจัยและพัฒนา จำกัด บริษัท และบริษัท อีเอส ไบโอเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด และทั้ง 9 แห่งจะได้รับมอบเกียรติบัตรจากจังหวัดสระแก้ว โดยผู้ว่าราชการจังหวัด
ขณะที่ นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาของทุกองค์กร โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสระแก้วซึ่งเป็นจังหวัดชายแดน มีอาณาเขตติดกับประเทศกัมพูชา ระยะทางกว่า 165 กิโลเมตร และยังติดต่อกับสถานบันเทิงหลายแห่งของประเทศกัมพูชา ทั้งยังเป็นเส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวในกัมพูชา จึงเป็นพื้นที่นำเข้า และพักยา พื้นที่ลำเลียง และพื้นที่ค้า พื้นที่ระบาด จึงขอให้สถานประกอบกิจการได้สอดส่องดูแลลูกจ้าง และให้ความร่วมมือต่อทางราชการ เพื่อกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากจังหวัดสระแก้ว