ไฟเผาอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปอายุพันปี มหัศจรรย์เปลวไฟไม่ระคายผิว

อุบลราชธานี - เกิดเหตุเพลิงไหม้อุโบสถประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ พระพุทธรูปปางมารวิชัย อายุกว่า 1,400 ปี ตั้งอยู่ในวัดพระโตบ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี แต่เปลวเพลิงไม่ระคายผิวพระพุทธรูป คาดสาเหตุจุดธูปเทียนบูชาแล้วดับไม่สนิท

เมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (13 ธ.ค.) พ.ต.อ.ปรีชา จะบัง ผกก.สภ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากพระครูพุฒิยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระโต บ้านปากแซง ต.พะลาน อ.นาตาล เกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในอุโบสถใช้ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ พระพุทธรูปปางมาวิชัย สร้างด้วยอิฐผสมปูนขาวอายุกว่า 1,400 ปี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ถนอม สิริโรจน์ธนสาร หัวหน้าพนักงานสอบสวนและรถดับเพลิง อบต.พะลาน เข้าร่วมระงับเหตุนานประมาณ 30 นาที เพลิงได้สงบลง

โดยจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดคือ บริเวณที่ตั้งโต๊ะหมู่บูชาให้ประชาชนใช้จุดธูปเทียนบูชากราบไหว้ และไฟได้ลุกลามไหม้พรมที่ปูพื้น รวมทั้งข้าวของที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของพระพุทธรูปเสียหายทั้งหมด และควันไฟที่อบอยู่นานยังทำความเสียหายให้ภาพวาดตามผนังอุโบสถ รวมทั้งมีเขม่าควันลอยไปติดตามตัวองค์พระจนเกิดเป็นคราบดำ

แต่เปลวไฟไม่ได้ทำความเสียหายให้ตัวองค์พระ และโครงสร้างอื่นๆ ของอุโบสถ สำหรับมูลค่าความเสียหายต้องรอผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณวัตถุมาตรวจสอบก่อน

จากสอบถาม พระครูพุฒิธิยาธิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระโตให้การว่า ช่วงหัวค่ำหลังพุทธศาสนิกชนพากันกลับหมด พระ เณรที่ดูแลอุโบสถที่ใช้ดิษฐานพระพุทธรูปได้ปิดประตูโบสถ์ตามปกติ กระทั่งตกดึก พระเณรที่จำวัดอยู่ใกล้อุโบสถได้กลิ่นควันไฟ จึงพากันลุกขึ้นมาดู และเห็นมีเปลวไฟในโบสถ์ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยดับไฟ

เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้น่าจะเกิดจากดับธูปเทียนที่ประชาชนจุดบูชาไม่สนิท ทำให้เกิดเพลิงไหม้บริเวณพรมที่ใช้ปูให้ประชาชนนั่งกราบไหว้ ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่แผนกพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐาน เพื่อสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโตบ้านปากแซง ถือเป็นพระพุทธรูปที่ชาวไทย และชาวลาวให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเข้ากราบไหว้มานาน และตั้งประดิษฐานหันหน้าไปทางแม่น้ำโขง ทำให้ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นพระพุทธรูปที่คอยปกปักดูแลประชาชนที่ใช้พาหนะเดินทางทางเรือในแม่น้ำโขง สร้างขึ้นในราว พ.ศ.1154 โดยพระยาแข้วเจ็ดถัน