โจรวิ่งราวทรัพย์หยามฝีมือ ตร.สัตหีบ สุดท้ายเจอรวบคาบ้าน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - โจรวิ่งราวทรัพย์ก่อเหตุเผยใบหน้าท้าฝีมือตำรวจพื้นที่ ลั่นเพราะเชื่อไร้น้ำยา จนทำให้ก่อเหตุสำเร็จนับครั้งไม่ถ้วนในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สุดท้ายเจอบุกรวบคารังได้ 1 หลบหนี 1 และยังอยู่ระหว่างการสืบสวนอีก 3 ราย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค.) พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นิพนธ์ ป้อมสนาม รอง ผกก.ปป. และชุดสืบสวนได้ร่วมกันจับกุม นายพีรพงษ์ หรือโอ๊บ แซ่อึ้ง อายุ 19 ปี ในข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 I สีขาว หมายเลขทะเบียน งจค 74 ชลบุรี หมวกกันน็อก 6 ใบ สร้อยคอทองคำ 1 เส้น แหวน และพระเลี่ยมทองรวม 9 ชิ้น

นอกจากนี้ ยังได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดพัทยา เพื่อจับกุม นายภาณุวัฒน์ หรือพี อันธิรส อายุ 18 ปี เพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอยู่

พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย สุดสคร รอง ผกก.สส.สภ.สัตหีบ เปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากในช่วงระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ชาวอำเภอสัตหีบกว่า 20 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหญิงสาว และคนชรา มักถูกแก๊งมิจฉาชีพตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์อยู่เป็นประจำ โดยพฤติกรรมของแก๊งคนร้ายจะใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันในการก่อเหตุ ซึ่งคันแรกจะขี่ปาดหน้ารถจักรยานยนต์ของเหยื่อเพื่อให้ชะลอ ก่อนที่คันหลังจะลงมือกระชากสร้อย หรือกระเป๋าที่สะพายมา

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกสืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิด จนทราบเบาะแสของคนร้าย และนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว โดยจับกุมนายโอ๊บ หัวหน้าแก๊ง ได้ที่บ้านพักอาศัยในเขตตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง ส่วนเพื่อนร่วมแก๊งคือ นายพี ซึ่งไหวตัวหลบหนีขณะนี้ได้ออกหมายจับแล้ว และยังพบมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย แต่ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล

พ.ต.ท.ปวัชร์ชัย ยังกล่าวอีกว่า นายโอ๊บ ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุในคดีวิ่งราวทรัพย์ในเขตสถานีตำรวจภูธรหนองขาม มากกว่า 20 คดี และเคยถูกจับติดคุกอยู่ในสถานพินิจฯ และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 หลังจากนั้น ได้หวนกลับมาเป็นโจรวิ่งราวทรัพย์อีกครั้ง โดยมุ่งเป้าหมายในพื้นที่อำเภอสัตหีบ พร้อมอ้างว่า เพราะตำรวจไร้ฝีมือจึงอยากเข้ามาทดสอบฝีมือตำรวจสัตหีบ

โดยในช่วงระยะเวลา 7 เดือน ได้ลงมือก่อเหตุในพื้นที่อำเภอสัตหีบ และใกล้เคียงนับครั้งไม่ถ้วน โดยจะเปลี่ยนสีเปลือกรถ และหมวกกันน็อกทุกครั้งที่ก่อเหตุเพื่อกันการติดตาม และล่าสุด ได้ท้าทายอำนาจตำรวจด้วยการเปิดเผยใบหน้าขณะก่อเหตุจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว