สระแก้ว - เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบลานรับซื้อข้าวศักดา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบไม่มีใบอนุญาต และไม่มียี่ห้อ หรือตราแสดงสัญลักษณ์ใดๆ
วันนี้ (10 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินิจ เฮ่าบุญ การค้าภายในจังหวัดสระแก้ว ได้นำเจ้าหน้าเข้าตรวจสอบลานรับซื้อข้าวศักดา พาณิชย์ ม.7 บ้านกุดเตย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
หลังได้รับแจ้งจากเจ้าของลานรับซื้อข่าวว่า มีข้าวสารเจ้าอยู่ในโกดังแห่งนี้ จำนวน 2 พ่วง จะมาขอให้ทางกรมการค้าภายใน สระแก้ว ออกใบขนย้ายให้จึงได้ เข้าไปตรวจสอบพบภายในโกดังมีรถพ่วงบรรทุกข้าวสารเจ้า จำนวน 2 พ่วงจริงๆ
เมื่อให้คนขับรถเปิดผ้าใบที่คลุมออก พบข้าวสารบรรจุไว้ในกระสอบสีข้าว น้ำหนักรวม 35 ตัน แต่กระสอบที่บรรจุข้าวสารเป็นกระสอบเปลือย ไม่มียี่ห้อ หรือตราแสดงสัญลักษณ์แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบใบขนย้ายที่ขนมาจากต้นทางก็แต่ไม่มี จึงขอกักข้าวจำนวนดังกล่าวไว้ก่อน และได้นำตัวอย่างข้าวไปตรวจสอบก่อน หัวหน้าการค้าภายในสระแก้ว กล่าวว่า ลักษณะข้าวมีเมล็ดใสมาก ไม่น่าเป็นข้าวสารเจ้าสีภายในฤดูเก็บเกี่ยวนี้
ด้านนายแสวง ทรงชาติ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม. 1 โนนดินแดง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ข้าวสารเจ้า จำนวน 35 ตัน ได้ไปซื้อมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ในราคากิโลกรัมละ 19 บาท เพื่อนำไปส่งที่โรงสีแสวงพานิชย์ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ โดยนายแสวง ยืนยันว่าไม่ใช่ข้าวลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ การเก็บเกี่ยวข้าวภายในจังหวัดสระแก้ว ขณะนี้ชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าวไปได้เกือบหมดแล้ว แต่ปีนี้ชาวนาในจังหวัดสระแก้วขายข้าวไม่ได้ราคา เนื่องจากชาวนาหาแรงงานเกี่ยวข้าวไม่ได้ จึงเก็บเกี่ยวได้ล้าช้าทำให้ข้าวถูกฝน หลังนำมาสีทำให้ข้าวเป็นข้าวปุ้น ชาวนาขายได้เพียงกิโลกรัมละ 9 บาทเท่านั้น
น่าจะเป็นไปได้ว่า บริเวณชายแดนได้มีพ่อค้าหัวใสลักลอบนำข้าวเปลือกจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาข้าวเปลือกของชาวนาในจังหวัดสระแก้ว ขายไม่ได้ราคา