ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผอ.สถาบันเอดส์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ชี้กลุ่มชายรักชายโอกาสติดเชื้อ HIV สูงถึงร้อยละ 10 ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมต่อเนื่อง 4 แสนรายแล้ว เร่งระดมสมองหาแนวทางป้องกันและรักษา อย่างน้อยผู้ติดเชื้อต้องเข้าถึงยาต้านไวรัสให้มากที่สุด
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ห้องมงกุฎเพชร โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น สถาบันเอดส์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ร่วมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ขอนแก่น และสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น จัดประชุมวิชาการ “Update in HIV/AIDS 2014” เพื่อพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด้านการดูแลรักษาและป้องกันเอดส์ มีความรู้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง และให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ ในการเปลี่ยนแปลงแนวทางการปฏิบัติในการรักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี เพื่อให้ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาที่เหมาะสม
รศ.นพ.ภพ โภศลารักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันเอดส์ มข. กล่าวถึงสถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันผู้มีเชื้อ 450,000 ราย เทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่าลดลง แต่บางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มชายรักชาย กลุ่มที่ใช้ยาเสพติดเข้าเส้น ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ย 2 ใน 3 รายที่ติดเชื้อใหม่ หรือสถิติทั้งประเทศพบประมาณร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วง และคาดว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นหากไม่ป้องกันรักษาในกลุ่มนี้
ดังนั้น การจัดประชุมบุคลากรทางด้านสุขภาพ และเครือข่ายชุมชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ได้อย่างยั่งยืน เพราะแนวทางการตรวจรักษา และการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยต้องทันสมัยมากขึ้น ผู้ติดเชื้อต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นแนวทางในการป้องกันรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ ได้แก่ สำหรับผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อ คือ การแนะนำให้ผู้ติดเชื้อทุกรายรับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส ไม่ว่าจะมีระดับภูมิคุ้มกันต่ำหรือไม่
“เรามีเป้าหมายให้ผู้ติดเชื้อเข้าถึงยาต้านไวรัสได้มากขึ้น พร้อมแนะนำเรื่องการเริ่มการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพ สูตรเดียวในผู้ใหญ่ที่ติดเชื้อทุกประเภท”
ส่วนแนวทางการป้องกันรักษาใหม่สำหรับเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี คือ การให้ยาที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากมารดาสู่ทารก เพื่อให้หญิงตั้งครรภ์มีสุขภาพดี และลดการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีไปยังทารก มีการให้ยาทารกหลังคลอดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ลดอัตราทารกที่ติดเชื้อจากมารดา พร้อมกับการรักษาทารกที่ติดเชื้อให้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากมารดา
ทั้งนี้ รายงานผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ที่ลงทะเบียนในฐานข้อมูล NPA-Plus ณ วันที่ 30 กันยายน 2556 ผู้ติดเชื้อลงทะเบียนรับบริการสะสม 388,833 คน ยังมีชีวิตและมารับริการ 256,451 คน แบ่งเป็นรับยาต้านไวรัส 227,451 คน (ผู้ใหญ่ 222,361 คน เด็ก 5,090 คน) และไม่ได้รับยาต้านไวรัส 28,940 คน (ผู้ใหญ่ 28,475 คน เด็ก 495 คน) เป็นผู้รับบริการสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 74% พบปัญหาการเข้าถึงบริการรักษาช้าหรือเข้าไม่ถึง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในผู้ป่วยเอดส์
