ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “สุวิระ” ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้นายอาร์ท และนายบอล 2 ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงรถยนต์ ได้เข้ามอบตัวต่อตำรวจเพื่อจะได้แสดงความจริง หลังถูกผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ซัดทอดว่าเป็นคนนำรถผู้เสียหายไปเก็บไว้จำนวนหลายคัน
วันนี้ (27 พ.ย.) ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าในคดีแก๊งต้มตุ๋นฉ้อโกงรถยนต์ ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 4 สามารถติดตามจับผู้ต้องหาได้แล้ว 10 คน เหลืออีก 2 คนกำลังหลบหนีการจับกุม ยึดรถคืนผู้เสียหาย 12 คัน ส่วนรถยนต์อีก 13 คันยังไม่สามารถติดตามมาได้
ทั้งนี้ มีผู้เสียหายที่ได้รถคืนแล้วเดินทางนำดอกไม้มามอบแสดงความขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงานสางคดีขบวนฉ้อโกงรถยนต์ แต่ก็มีผู้เสียหายบางส่วนที่ยังไม่ได้รถคืนเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนตำรวจปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าในการติดตามรถยนต์คืนให้แก่ผู้เสียหาย
พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 4 กำลังเร่งล่านายพนม ทิพย์รัตนมงคล หรืออาร์ท และนายบัญชา สามงามยา หรือบอล ที่กำลังหลบหนี โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้ก่อนหน้านี้ได้ซัดทอดว่านายอาร์ท และนายบอลเป็นคนรับรถยนต์ที่ฉ้อโกงมาไปเก็บไว้ โดยยังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายยังคงหลบหนีในพื้นที่ภาคอีสาน ยังไม่หนีออกนอกประเทศแต่อย่างใด
ส่วนระยะเวลาดำเนินคดีแก๊งฉ้อโกงรถแก๊งนี้จะดำเนินการไปโดยไม่มีกำหนดระยะเวลาในการทำงานของตำรวจที่รับผิดชอบ แต่สุดท้ายจะต้องเอาผิดทางกฎหมายผู้ต้องหาทุกคนที่พบหลักฐานการทำผิดให้ถึงที่สุด พร้อมนำตำรวจชุดเฉพาะกิจจากตำรวจภูธรภาค 2 มาร่วมคลี่คลายคดีนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรภาค 4 ได้ระดมกวาดล้างรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ผิดกฎหมายไม่มีเอกสารครอบครองไว้ตรวจสอบอีก 43 คัน แยกเป็นรถยนต์ 22 คัน รถจักรยานยนต์ 21 คัน ส่วนใหญ่ยังไม่มีใครแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งใครที่สงสัยว่ารถยนต์หายหรือถูกหลอกลวงนำไปจำนำสามารถมาติดต่อขอดูรถได้ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ได้ทุกวัน ก่อนคดีจะหมดอายุภายความใน 3 เดือน