พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจอยุธยา คุมตัว 2 เด็กแว้นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังก่อเหตุยิงคู่อริดับ เผยเกิดจากความแค้นที่ถูกกลุ่มผู้ตายใช้หนังสติ๊กไล่ยิง และใช้ไม้ไล่ตี จึงพาพวกกลับมาแก้แค้น
วันนี้ (27 พ.ย.) พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วิโรจน์ ข้าวบ่อ ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.รามณรงค์ เกียรติบุญเกิด รอง ผกก.สส. และ พ.ต.ท.ชนินทร์ คงดิษฐ์ สว.สส.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสันติ หรือเอ็ม ขันธะบัณฑิตย์ อายุ 19 ปี นายวริศวงษ์ หรือมอส ลือจรัสพงษ์ อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน พกพาอาวุธปืนใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ได้ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด.22 ยิงนายเชาวลิตร แสงเเดงชาติ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ 2 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เสียชีวิต เหตุที่บริเวณปากซอยรวมมิตรบ้านแพน หมู่ 1 ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ และจากการสอบสวน นายวริศวงษ์ หรือมอส ลือจรัสพงษ์ ให้การรับสาราภาพว่า ได้เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พานายสันติ หรือเอ็ม ขันธะบัณฑิตย์ ไปใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ตายที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่ในที่เกิดเหตุ สาเหตุมาจากก่อนหน้านี้ ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันกับกลุ่มของผู้ตาย และถูกกลุ่มผู้ตายใช้หนังสติ๊กไล่ยิงใส่ รวมถึงใช้ไม้ไล่
หลังจากนั้น ผู้ต้องหา พร้อมกับพวกได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 10 คัน ย้อนกลับมาติดตามหากลุ่มผู้เสียชีวิตจนกระทั่งมาพบ จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าไปในกลุ่มของผู้เสียชีวิตที่นั่งอยู่ด้วยกัน จำนวน 4 คน กระสุนปืนถูกนายเชาวลิตร จนเสียชีวิต จากนั้นได้หลบหนีไป จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
