บุรีรัมย์ - ธ.ก.ส.บุรีรัมย์อนุมัติสินเชื่อสถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเพื่อช่วยเหลือชาวนาและชาวสวนยางแล้ว 21 สหกรณ์ วงเงินกว่า 543 ล้าน แยกเป็นอนุมัติสินเชื่อข้าวกว่า 422 ล้าน สินเชื่อยางพาราอนุมัติ 121 ล้าน เพื่อสกัดพ่อค้ากดราคารับซื้อข้าวเกษตรกร ขานรับนโยบายรัฐบาล
นายจักรดุลย์ ศรีสุวรมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและยางพาราและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกรโดยสถาบันเกษตรกร ว่า สำหรับสินเชื่อรวบรวมข้าวในวงเงิน 20,000 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ทาง ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ได้อนุมัติสินเชื่อให้กับ 15 สหกรณ์ที่ยื่นความจำนงเข้าร่วมโครงการแล้ววงเงิน 422.5 ล้านบาท จากที่ขอยื่นกู้ไว้ในวงเงิน 498 ล้านบาท โดยจะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 ก.ย. 2558
ทั้งนี้ โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโดยสถาบันเกษตรกร มีเป้าหมายในการให้สินเชื่อสหกรณ์เพื่อนำไปรับซื้อรวบรวมข้าวเปลือกเพื่อจำหน่ายและสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวเปลือกเก็บไว้เพื่อแปรรูปเป็นข้าวสาร และในช่วงนี้เป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวของเกษตรกรออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากส่งผลทำให้ข้าวมีราคาตกต่ำ ทั้งเสี่ยงต่อการถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการ
ส่วนสินเชื่อสนับสนุนสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมยางพาราและแปรรูปยางพาราภายใต้แนวทางพัฒนายางพาราทั้งระบบ มีเป้าหมายตามโครงการให้สินเชื่อแก่สหกรณ์การเกษตรฯ ที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อรวบรวมยางพาราจากสมาชิกไว้ชะลอราคาให้สูงขึ้นเพื่อจำหน่ายและเพื่อการแปรรูปในวงเงินทั้งประเทศ 10,000 ล้านบาท
ล่าสุด ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการรวบรวมยางพาราและเพื่อจำหน่ายไปแล้ว 6 สหกรณ์ วงเงิน 121 ล้านบาท จากที่ขอยื่นกู้ไว้ในวงเงิน 140 ล้านบาท โดยจะสิ้นสุดโครงการดังกล่าววันที่ 31 ธ.ค. 2558
นายจักรดุลย์กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการดังกล่าวดำเนินตามนโยบายรัฐบาล ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 บาท/ปี ทั้ง 2 โครงการ โดยรัฐบาลช่วยสนับสนุน จ่ายชดเชยให้ร้อยละ 3 บาท และสหกรณ์การเกษตรฯ ที่เข้าร่วมโครงการจะจ่ายดอกเบี้ยเพียง 1 บาทต่อปีเท่านั้น
ขณะนี้ทางสหกรณ์ฯ ทั้ง 21 แห่งที่เข้าร่วมโครงการกำลังอยู่ในระหว่างการรับซื้อและรวบรวมข้าวและยางพาราจากสมาชิกเกษตรกรเพื่อชะลอราคาให้สูงขึ้น ทั้งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการดังกล่าวด้วย