แห่สัมผัสลมหนาว-ชมปล่องภูเขาไฟบนยอดเขากระโดงบุรีรัมย์(ชมคลิป)

บุรีรัมย์ - นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแห่สัมผัสลมหนาวและชมปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับสนิทมาแล้วนับแสนปีบนยอดภูเขาไฟกระโดงบุรีรัมย์คึกคักวันละ 2-3 พันคน ขณะหัวหน้าอุทยานฯ เผยช่วงหน้าหนาวปีนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ต่างชาติขึ้นมาเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 40% คาดตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน



วันนี้ (27 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ มีนักท่องเที่ยวชาวไทยจากจังหวัดต่างๆ เดินทางขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวบนยอดภูเขาไฟกระโดงคึกคัก เฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน จากปกติวันละ 800-900 คนเท่านั้น

นอกจากนั้นยังพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มใหม่โดยเฉพาะทางโซนยุโรป และเอเชีย เช่น ประเทศเยอรมนี สวีเดน นอร์เวย์ ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางขึ้นมาเที่ยวชมความงดงาม สัมผัสธรรมชาติ และศึกษาประวัติความเป็นมาของปากปล่องภูเขาไฟที่มอดดับสนิทมาแล้วนับแสนปี บนยอดภูเขาไฟกระโดงดังกล่าวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมากันเป็นครอบครัว และกรุ๊ปทัวร์ และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง กล่าวว่า จากสถิติช่วงเดือน พ.ย. 2556 มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาเที่ยวเพียง 17,000 คน แต่เดือน พ.ย.ปีนี้มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 28,000 คน เฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ของปีที่ผ่านมา

ขณะที่สถิติตลอดทั้งปี 2556 มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวรวมทั้งสิ้น 270,000 คน ซึ่งคาดว่าตลอดปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 300,000 คนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มใหม่ทั้งจากโซนยุโรป และเอเชียพบขึ้นมาเที่ยวอย่างต่อเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษ ฝรั่งเศส ที่มีภรรยาชาวไทยเท่านั้น

สาเหตุที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นมาจากหลายปัจจัย ทั้งที่ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมทั้งบุรีรัมย์มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่เกิดขึ้นที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมาเที่ยว เช่น สนามฟุตบอล สนามแข่งรถระดับโลก และเพ-ลาเพลิน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ด้านพืชเมืองร้อนและเมืองหนาวนานาชนิดอีกด้วย

“จากสถิตินักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทางวนอุทยานฯ มีแผนพัฒนาปรับปรุงด้านสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ห้องน้ำ ลานจอดรถ สร้างจุดถ่ายรูป และลานลาวาให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของหินภูเขาไฟดังกล่าวด้วย” นายรณภพกล่าวในตอนท้าย