ผู้ช่วยเลขาฯ ทูตกรีซ ถูกรถไฟสายมรณะทับศีรษะดับที่กาญจนบุรี

กาญจนบุรี - ผู้ช่วยเลขานุการสถานเอกอัครราชทูตกรีซ ถูกรถไฟสายมรณะ “น้ำตก-ธนบุรี” ทับศีรษะดับสยองคาที่ เหตุเกิดขณะกำลังก้าวเท้าลงจากรถไฟสายสะพายกระเป๋าไปเกี่ยวกับตะขอประตู ทำให้เสียหลักล้มลงตรงกลางรางรถไฟ จึงถูกล้อรถไฟทับเข้าที่ศีรษะ จนกะโหลกศีรษะแตกเสียชีวิต

เมื่อเวลา 13.05 น.วันนี้ (26 พ.ย.) ร.ต.ท.กสานต์ พารา พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวว่า เกิดอุบัติเหตุรถไฟขบวนที่ 257 สายน้ำตก-ธนบุรี ทับร่างนักท่องเที่ยวเป็นหญิงชาวต่างชาติเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดบริเวณ กม.173/6 หมู่ 10 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชทราบ จากนั้นจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.บัณฑิต ม่วงสุขำ ผกก.สภ.ไทรโยค แพทย์เวร รพ.ไทรโยค และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์

ที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างรางรถไฟด้านนอกใต้ทางลงบันไดรถไฟโบกี้ที่ 7 สภาพศพศีรษะถูกล้อรถไฟทับกะโหลกเปิดมันสมองปนเลือดกองเต็มรางรถไฟ การแต่งกายนุ่งกางเกงผ้ายืดขายาวสีม่วง ใส่เสื้อแขนสั้นลายขาวแดง แขนซ้ายพบกระเป๋าสะพายสีน้ำเงินสายสะพายเกี่ยวอยู่ที่ข้อมือซ้าย

ตรวจสอบเอกสารระบุชื่อ นางอลิสเตอา เลียอาปิ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยเลขานุการสถานเอกอัครราชทูตกรีซ ประจำสถานเอกอัครราชทูตกรีซ มีคณะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาด้วยกันอยู่ในอาการเศร้าสลด โดยเฉพาะ นายแอนเดรียส เลียอาปิ สามี หลังจากคณะแพทย์ชันสุตรแล้วเสร็จจึงนำศพไปที่ รพ.ไทรโยค ซึ่งนายแอนเดรียส เลียอาปิ สามี ยังไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างใด

ร.ต.ท.กสานต์ พารา พนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เปิดเผยว่า จากการสอบถามนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถไฟขบวนดังกล่าวกำลังมุ่งหน้าที่ที่นำตกไทรโยคน้อย ขณะที่รถไฟจอดที่จุดพักรถชั่วคราวเป็นเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นรถไฟก็จะเคลื่อนขบวนไปต่อ จังหวะที่รถไฟกำลังเคลื่อนขบวนปรากฏว่า นักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตได้เดินก้าวลงบันไดรถไฟ โดยที่ยังสะพายกระเป๋าอยู่

ขณะกำลังก้าวเท้าลงปรากฏว่า สายสะพายกระเป๋าไปเกี่ยวกับตะขอประตู ทำให้เสียหลักล้มลงตรงกลางรางรถไฟจึงถูกล้อทับเข้าที่ศีรษะอย่างจัง จนกะโหลกศีรษะแตกเสียชีวิต ทั้งนี้ ทราบว่าสามีของผู้เสียชีวิตแจ้งไปยังสถานเอกอัคคราชทูตกรีซ ประจำประเทศไทยทราบแล้ว และเอกอัครราชทูตกรีซ กำลังเดินทางมาที่เกิดเหตุ และดูศพ แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงจะทำการสอบสวนนักท่องเที่ยวที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง