บุรีรัมย์ - เกษตรกรบุรีรัมย์ที่บัญชีธนาคารถูกปิดและชื่อในบัญชีไม่ตรงกับที่ขึ้นทะเบียนไว้ แห่มาแก้ไขเปลี่ยนชื่อให้ถูกต้องและเปิดบัญชีใหม่ที่ ธ.ก.ส.วันละร่วม 100 ราย เตรียมรับเงินไร่ละพัน ล่าสุด ธ.ก.ส.ได้โอนเงินให้เกษตรกรที่ผ่านการตรวจรับรองแล้วกว่า 8,000 ราย เป็นเงินกว่า 108 ล้านบาท จากทั้งจังหวัดมีเกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนไว้กว่า 160,000 ราย
วันนี้ (25 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรจากหลายตำบลในเขตอำเภอเมือง จ.บุรีรัมย์ ที่บัญชีธนาคารถูกปิดเนื่องจากไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีเป็นระยะเวลานาน และชื่อในบัญชีไม่ตรงกับที่แจ้งขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทแต่ไม่เกิน 15 ไร่ตามมาตรการช่วยเหลือชาวนาผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล ได้แห่นำหลักฐานสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชน เข้ามาแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อให้ถูกต้อง และเปิดบัญชีใหม่ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอำเภอเมืองบุรีรัมย์ คึกคักเฉลี่ยวันละ 100 ราย จากทั้งจังหวัดมี 26 สาขา
โดยเกษตรกรที่แห่มาเปิดบัญชีใหม่ในครั้งนี้เพื่อเตรียมรับเงินโอนไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งจากข้อมูลพบว่าล่าสุดทาง ธ.ก.ส. จ.บุรีรัมย์ ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรที่ผ่านการตรวจสอบรับรองรายชื่อแล้วจำนวน 8,480 ราย เป็นเงินกว่า 108 ล้านบาท จากที่ทั้งจังหวัดมีเกษตรกรมาแจ้งขึ้นทะเบียนต่อเกษตรอำเภอทุกอำเภอไว้กว่า 160,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้ผ่านการตรวจสอบรายชื่อจากเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร และส่งมาให้ทาง ธ.ก.ส.เพื่อดำเนินการจ่ายเงินแล้ว 88,696 ราย เป็นวงเงินกว่า 1,056 ล้านบาท
นายเสกสรร ศานติวารวงศ์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. สาขาเมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในช่วงนี้ได้มีเกษตรกรมาเปิดบัญชีใหม่ และขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่ออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากชื่อบัญชีไม่ตรงกับที่ขึ้นทะเบียนไว้ และบางรายบัญชีถูกปิดเนื่องจากไม่มีเงินคงเหลือในบัญชีเป็นเวลานาน จากกรณีดังกล่าวจึงได้แนะนำให้เกษตรกรอย่าถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมด หรือควรจะเหลือเงินติดบัญชีไว้อย่างน้อย 500 บาท เพื่อรักษาสถานะบัญชีไว้ เมื่อมีโครงการช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐบาลลงมาจะได้ไม่ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาทั้งตัวเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ด้วย