เชียงราย - ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองพ่อขุนฯ เรียกประชุม ตร.ทุกท้องที่ สั่งเร่งหาตัวคนพ่นสีสเปรย์เขียนข้อความ-สัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาล-คสช.รอบค่ายทหาร และหน้า มฟล.ระหว่าง “บิ๊กป๊อก” ร่วมเวทีประชุมหอการค้าทั่วไทย กำชับตรวจกล้องวงจรปิดทุกตัว-สาวถึงคนเบื้องหลังด้วย
วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.วีระวุฒิ เนียมน้อย ผบก.ภ.เชียงราย ได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ที่ศูนย์ปฏิบัติการ ภ.เชียงราย เพื่อสั่งการให้ออกติดตามหาข่าว และหาหลักฐานติดตามจับกุมผู้ก่อความไม่สงบที่ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
โดยมีการนำสีสเปรย์ไปพ่นเขียนข้อความ และภาพสัญลักษณ์ตามถนนรอบค่ายเม็งรายมหาราช และหน้ามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ต.ท่าสุด อ.เมือง ในช่วงที่มีการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 32 เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาปาฐกถาพิเศษในการประชุม
พล.ต.ต.วีระวุฒิได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามหาหลักฐาน เพื่อติดตามหาตัวผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยด่วน โดยเฉพาะการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดที่พบข้อความ รวมทั้งขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่เคยเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้หรือไม่ด้วย ส่วนการหาข่าวทั่วไปให้ทุกพื้นที่ได้ออกติดตามความเคลื่อนไหวด้วยเพื่อป้องกันเหตุในอนาคต
พล.ต.ต.วีระวุฒิยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจ และชี้แจงเกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศไปในทิศทางเดียวกัน ควบคู่ไปกับการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมาย เหตุอาชญากรรม และการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติด ซึ่งแต่ละพื้นที่จะต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ด้วย
อย่างไรตาม ในการประชุมครั้งนี้ไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า บุคคลหรือกลุ่มคนใดเป็นผู้ลงมือพ่นสีสเปรย์ทำสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช.ในวันและเวลาดังกล่าว แต่คาดว่าลงมือกันในเวลากลางคืนก่อนที่เช้ามืดวันที่ 22 พ.ย.ที่เป็นวันจัดการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 32
สำหรับกลุ่มคนที่เคยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองมาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ต่างถูกเรียกตัวไปรายงานตัวต่อกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (กกล.รส.) จังหวัดหวัดทหารบกเชียงรายไปแล้วหลายคน บางคนถูกควบคุมตัวเพื่อปรับทัศนคติ 7 วัน และบางคนถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาที่กระทำมาก่อนหน้านี้ ทำให้แทบไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม บางกลุ่มถึงขั้นประกาศสลายสีเสื้อไปแล้ว
แต่ก็พบว่าระยะที่ผ่านมามีบางกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารผ่านสื่อสาธารณะหรือโซเชียลมีเดียอยู่อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
