ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รวบยกแก๊ง 3 โจรปล้นร้านสะดวกซื้อชื่อดังกลางเมืองโคราช เผยสุดแสบวางแผนก่อเหตุโดยให้เยาวชนอายุ 15 ปีเป็นคนลงมือเข้าไปจี้ผู้จัดการร้าน 7-11 ปล้นเงินไปเกือบ 2 แสน ก่อนนำ จยย.และรถยนต์มารับหลบหนีแล้วแบ่งเงินกัน แต่ไม่รอดถูกตำรวจตามรวบตัวได้ยกแก๊ง
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (21 พ.ย.) พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงพงชร ผู้กำกับการ สภ.เมือง นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ได้ผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายเจตษฎา หรือเอ ชาญณรงค์ อายุ 37 ปี ที่อยู่ 367/12 ซอยอุดมเดช 14 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุดใจ หรือต้อย นักเบศร์ อายุ 39 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ “ต้อยเซอร์วิส” ที่อยู่ 255 หมู่ 4 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา และ นายต้า (นามสมมติ) อายุ 15 ปี (ไม่ได้นำตัวมาแถลงข่าวเนื่องจากเป็นเยาวชน)
พร้อมของกลาง เงินสดที่ปล้นมาจำนวน 166,140 บาท รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ทะเบียน กฉ 7023 นม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีขาว-ดำ ทะเบียน งบท 326 นม ยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ อาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 คืบ จำนวน 1 เล่ม ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า และหมวกกันน็อก
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายปล้นร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-Eleven) สาขาถนนจอมสุรางค์ยาตร์ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา จึงนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้จัดการร้านดังกล่าว สอบถามทราบว่าในเวลาดังกล่าวได้ออกจากร้านเพื่อนำเงินสดจำนวน 186,000 บาทไปฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาจอมสุรางค์ยาตร์ แต่ขณะขับรถจักรยานยนต์ออกจากร้าน มีคนร้ายตรงเข้ามากระชากกระเป๋า แต่ผู้เสียหายพยายามดึงกระเป๋าไว้ คนร้ายจึงใช้มีดตัดสายกระเป๋าแล้วกระชากกระเป๋าที่ใส่เงินวิ่งหลบหนีไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไป ต่อมาคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์ได้ลงจากรถวิ่งไปขึ้นรถยนต์กระบะ ลักษณะโหลดเตี้ย ไม่มีฝาท้ายมีเหล็กค้ำกระบะเป็นรูปตัววี ขับหลบหนีไปทางถนนสุรนารี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางหลบหนีของคนร้าย พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยตรงกับข้อมูลที่ได้รับแจ้ง จึงได้สืบสวนติดตามต่อเนื่อง กระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่ 20 พ.ย. 2557 พบรถยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่บริเวณด้านหลังบางรักรีสอร์ท ถ.เดชอุดม ซอย 4 หนองไผ่ล้อม ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา และสามารถจับกุม นายเจตษฎา พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 111,480 บาท ขยายผลจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้เพิ่มอีก 2 คน พร้อมเงินสด 53,900 บาท
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันวางแผนและทำการปล้นทรัพย์โดยให้นายต้าเข้าลงมือก่อเหตุ จากนั้นนายสุดใจได้ขับรถจักรยานยนต์มารับ และ นายเจษฎา ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงาน 7-11 มาก่อน ขับรถยนต์มารับเพื่อหลบหนีก่อนแบ่งเงินกันคนละ 30,000 บาท โดยนายเจตษฎาได้ส่วนแบ่งมากที่สุด
จากการสอบประวัติพบว่า นายสุดใจเคยต้องคดีค้ายาเสพติด และถูกจำคุก 2 ปี 4 เดือน พ้นโทษมาเมื่อปี 2544 เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีต่อไป พร้อมมอบเงินของกลางคืนเจ้าของ ซึ่งทางผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ได้นำกระเช้ามามอบให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างทันท่วงทีด้วย