สุรินทร์ - สลด! ชาวนาเมืองช้างเพิ่งจะเกี่ยวข้าวเสร็จยังไม่ทันได้ขายใช้หนี้ ธ.ก.ส. ออกส่องกบตอนกลางคืนกับพี่เขยเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัว พลาดท่าจมน้ำดับ แถมทิ้งภาระหนี้สินเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 พ.ย.) ร.ต.อ.ณรนฤทธิ์ ภูแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองที อ.เมือง จ.สุรินทร์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านคล็องหมู่ 8 ต.บุฤาษี ว่า มีลูกบ้านจมน้ำเสียชีวิตที่สระน้ำปลายทุ่งนาท้ายหมู่บ้านคล็อง จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมวิทยุประสานหน่วยกู้ชีพสลักได หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ และแพทย์เวร รพ.สุรินทร์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ
พบชาวบ้านได้ช่วยกันงมศพขึ้นมาจากสระขนาด 10x8 เมตร ลึก 3 เมตร มาไว้บนคันนาเพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภาพศพผู้ตายคาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 5 ชม.ทราบชื่อคือ นายอัน ว่องไว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ 8 ต.บุฤาษี ขณะที่ภรรยา และญาติพี่น้องต่างร่ำไห้ด้วยความโศกเศร้า
สอบสวนทราบว่า นายอัน และนายสมสุข ดวงใจ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 8 ต.บุฤาษี พี่เขยได้ชวนกันออกมาส่องกบที่ทุ่งนา ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ระหว่างพากันเดินส่องกบมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสระน้ำ ผู้ตายกำลังจับกบได้แต่เกิดเสียหลักพลาดท่าจมน้ำพร้อมถุงตาข่ายไนลอนสำหรับใส่กบ พี่เขยที่ไปด้วยพยายามเข้าช่วยอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถช่วยได้ เพราะสระน้ำมีความลึก และลื่นชันมาก จึงวิ่งไปตามเพื่อนบ้านมาช่วยงมหาก่อนนำขึ้นมาไว้ที่คันนา
นางสายบัว ว่องไว อายุ 48 ปี ภรรยาผู้ตายกล่าวว่า สามีออกมาส่องกบเพื่อเป็นอาหารเลี้ยงครอบครัวแต่ออกมาส่องเป็นบางวัน ตนและสามีเป็นชาวนาเพิ่งจะพากันเกี่ยวข้าวเสร็จยังไม่ทันได้ขาย มีลูก 3 คน เมื่อไม่มีสามีตน และลูกๆ ก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร แถมมีภาระหนี้สินเยอะแยะไปหมด โดยเฉพาะหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ด้าน ร.ต.อ.ณรนฤทธิ์ ภูแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองที กล่าวว่า จาการสอบถามคนที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ผู้ตายได้ลงไปจับกบริมขอบสระน้ำ ประกอบกับอาจจะเหนื่อยล้าหมดแรง หรือเป็นตะคริวช่วยตัวเองไม่ได้ทำให้จมน้ำเสียชีวิต เบื้องต้น ได้ส่งศพให้แพทย์นิติเวช รพ.สุรินทร์ ตรวจหาสาเหตุก่อนมอบให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป