ราชบุรี - ชาวบ้าน 12 ราย ทั้งในพื้นที่จังหวัดราชบุรี และสมุทรสงคราม ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี จับทหารฉ้อโกงรับเงินสมัครนักเรียนนายสิบร่วม 6 แสนบาท หลังถูกทหารยศ “จ่าสิบเอก” เรียกรับเงินค่าสมัครนายสิบทหารในค่ายทหารแห่งหนึ่งในราชบุรี โดยอ้างว่าจะสามารถนำเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารได้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (17 พ.ย.) ที่ สภ.เมืองราชบุรี น.ส.นันทนา เทียมศรี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 3 ตำบลบางคนที อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม และนายสมัย เทียมศรี อายุ 71 ปีบิดา พร้อมด้วย นางอุทัยวรรณ ใจกว้าง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 6 ตำบลคูบัว อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี อีกทั้งผู้เสียหายรวมทั้งหมด 12 ราย ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.จิรวัฒน์ อารักษ์รุ่งโรจน์ ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี หลังถูกทหารยศจ่าสิบเอกเรียกรับเงินค่าสมัครนายสิบทหาร ในค่ายทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี โดยทหารนายดังกล่าวอ้างว่าจะสามารถนำเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารได้
นายสมัย เทียมศรี อายุ 71 ปี บิดาของ น.ส.นันทนา เทียมศรี เปิดเผยว่า มีทหารยศจ่ามาติดต่อว่า ใครมีบุตรหลานจะเข้ารับราชการเป็นนายสิบทหารบางหรือไม่ มีเจ้านายที่จะรับเอาเข้าเป็นข้ารายการทหารนายสิบได้เลยโดยต้องเสียเงินรายละ 50,000 บาท ซึ่งหลายคนก็อยากให้ลูกได้มีงานทำที่เป็นหลักแหล่งก็ยอมเสียเงินให้มาตั้งแต่เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2556 จนมีคนหลงเชื่อยอมจ่ายให้รวมทั้งหมด 12 ราย
เมื่อจ่าทหารได้รับเงินไปแล้วก็ไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้ เมื่อสอบถามไปยังจ่าทหารก็บ่ายเบี่ยงผัดผ่อนมาตลอด จนผลสุดท้ายรู้ว่าเข้าไม่ได้แน่แล้ว จึงมีการทวงเงินที่จ่ายไปกลับ จ่าทหารคนดังกล่าวก็ทำท่าทีจะจ่ายคืนเงิน แต่ก็ยังไม่คืนให้สักทีเพราะตัวเองไม่มีเงิน ต่อรองกันมาหลายครั้ง ทุกคนก็ยังไม่ได้คืนรายละ 50,000 บาท รวม 12 ราย เป็นเงินประมาณ 6 แสนบาท จึงได้นัดผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความในคดีฉ้อโกงหลอกลวง ใช้อำนาจหน้าที่มาหาเงินโดยมิชอบ
นายสมัย เทียมศรี กล่าวอีกว่า ตอนแรกทหารนายดังกล่าวรับปากว่าเมื่อจ่ายเงินแล้วเข้ารับราชการทหารได้เลย พร้อมเอาหนังสือเอกสารรับสมัคร รายละเอียดการสอบมาให้ดู มีชื่อหัวหน้าทหารยศ “พันตรี” แต่ดูแล้วไม่ได้เซ็นชื่อกำกับไว้ในเอกสาร
เมื่อสอบถามไปทางนายทหารต้นสังกัดได้รับคำตอบว่า ไม่มีการสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบ ทางนายทหารต้นสังกัดจึงได้เรียกจ่าคนนี้ไปสอบถาม ซึ่งจ่าทหารนายดังกล่าวก็ยอมรับต่อผู้บังคับบัญชาว่า เป็นการแอบอ้างจริง ทางต้นสังกัดจึงได้ลงโทษโดยกักบริเวณ 45 วัน แล้วเรื่องจบหายไป
จากนั้นได้มีการติดต่อให้จ่าทหารนำเงินมาชดใช้แก่ผู้ที่เสียหายทั้งหมด แต่ก็ยังไม่มีการชดใช้แต่อย่างใด และปล่อยเวลาเนิ่นนานมาถึงวันนี้ ผู้เสียหายทุกคนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อตำตรวจ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อติดตามดำเนินคดี และนำเงินมาจ่ายคืนให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมดด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว ผู้เสียหายที่ถูกฉ้อโกงทั้งหมดได้เดินทางไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดราชบุรี เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
