จันทบุรี - พบเด็กที่ก้มกราบ “พระบาทในหลวง” เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถวัดพุทธภูมิ (พระอารามหลวง) อำเภอเมืองยะลา เมื่อประมาณปี 2516-17 พบเป็นชาวยะลา แต่ได้ย้ายถิ่นฐานมาทำธุรกิจลำไยส่งออกที่จันทบุรี “นายอำเภอสอยดาว” พาเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อพิสูจน์
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพิเนตร เลิศเขมะทัศ นายอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยผู้ใหญ่เฉลียว จุ้ยวอน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลประตง อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ได้นำบุคคลที่ยืนยันว่าเป็นเด็กที่ปรากฏตัวในภาพถ่าย “ก้มกราบฝ่าพระบาทในหลวง” ที่หลายฝ่ายกำลังตามหาตัวอยู่ ได้เดินทางเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ชื่อนายเรืองยศ สุขาเหิน ปัจจุบันอายุ 43 ปี ทำธุรกิจลำไยส่งออกที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
นายเรืองยศ สุขาเหิน ยืนยันว่า เด็กที่ปรากฏตัวในภาพถ่ายดังกล่าวเป็นภาพตนสมัยเมื่ออายุประมาณ 2 ขวบเศษ ตอนนั้นคุณแม่ ซึ่งอยู่ด้านหลังของภาพพาเข้ารับเสด็จในคราวเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานประกอบพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ วัดพุทธภูมิ (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อประมาณปี พ.ศ.2516-17 โดยคุณพ่อ อดีตเป็นตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ปัจจุบันเกษียณอายุแล้ว
“คุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า เคยนำผมเข้าเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2 ครั้ง 1 ในนั้นคือ การเข้าเฝ้ารับเสด็จที่วัดพุทธภูมิ (พระอารามหลวง) จังหวัดยะลา ดังภาพที่ปรากฏ ผมเองอยู่กับแม่ช่วงรอรับเสด็จ แต่เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ผมซึ่งตอนนั้นยังจำความไม่ได้ คุณแม่บอกว่าผมได้ออกจากที่นั่งเข้าไปโน้มตัวก้มกราบที่ฝ่าพระบาทในหลวง คุณแม่พยายามจับรั้งตัวไว้แต่ไม่อยู่ และมีเด็กผู้หญิงอีกคนมาบังคุณแม่ และยืนยันว่า ภาพดังกล่าวเป็นภาพผมเอง เพราะจำเสื้อผ้า รองเท้าได้ แต่ปัจจุบันแม่ได้เสียชีวิตไปแล้วซึ่งปรากฏอยู่ในภาพได้อย่างชัดเจน รวมทั้งภาพที่ปรากฏด้านหลังเป็นจั่วศาลาการเปรียญ วัดพุทธภูมิ (พระอารามหลวง) จังหวัดยะลา ในสมัยนั้นแน่นอน”
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวยินดีต่อ นายเรืองยศ สุขาเหิน พร้อมสอบถามข้อมูลถือเป็นเรื่องที่เป็นมงคล น่าปลาบปลื้มใจที่เห็นภาพดังกล่าว และจะได้ประสานส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อพิสูจน์ความชัดเจนต่อไป
นายเรืองยศ สุขาเหิน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังเห็นภาพดังกล่าวปรากฏตามสื่อ รู้สึกขนลุก ปลาบปลื้ม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อยากให้ชาวไทยทุกคนรักใคร่กลมเกลียว สามัคคี ปรองดอง โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยอยู่กันอย่างอบอุ่น อยากให้กลับมามีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่สงบร่มเย็นเหมือนเดิม ปัจจุบัน ตนพร้อมด้วยบิดาที่เกษียณอายุราชการได้อพยพจากจังหวัดยะลา เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบ มาอยู่ที่อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี อยู่ด้วยกันเพียง 2 คน ส่วนคนในครอบครัวที่เหลืออีก 5 คน ทั้งแม่ และพี่ เสียชีวิตไปแล้ว