กาญจนบุรี - รอง ผบก.กาญจนบุรี หัวหน้าชุดสืบสวนคดีหญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดกระเป๋าแดงถ่วงแม่น้ำแม่กลอง ยอมรับแกะรอยตามล่าคนร้ายยาก เหตุไม่มีญาติแจ้งหาย แต่ยังมั่นใจหากทราบว่าหญิงสาวที่เสียชีวิตเป็นใครจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้แน่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อเลื่อนยี่ห้อ POLOGY สีแดง กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร ลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ถุงพลาสติกบรรจุก้อนหินที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้าน จำนวน 1 ถุง กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบวัยรุ่น 1 ตัว เสื้อสไตล์วัยรุ่นสีดำ 1 ตัว เสื้อชั้นในสีดำ 1 ตัว กางเกงในสีชมพู 1 ตัว ประเป๋าสตางค์เปล่า 1 ใบ รองเท้าส้นสูง 1 คู่ เจ้าหน้าได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพอยู่ในสภาพเปลือยมีบาดแผลบริเวณหน้าผากซ้ายยาวประมาณ 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่ได้นำไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เหตุเกิดวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา
วันนี้ (11 พ.ย.) พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างรู้สึกแปลกใจเช่นกันว่า ทำไมไม่มีญาติ หรือผู้ปกครองแจ้งเข้ามาว่าบุตรหลาน หรือคนรู้จักหายตัวไป จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และใครเป็นฆาตกร แต่ที่ผ่านมา ก็มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามาบ้าง แต่จากการตรวจสอบก็พบว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ติดต่อกับทางญาติไม่ได้เท่านั้น
“สำหรับหญิงสาวรายแรกที่มีเพื่อนที่เป็นโคโยตี้ด้วยกันแจ้งเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่โล่งใจคิดว่าคงใช่แน่ๆ เพราะการแต่งกาย และมีรูปร่างที่คล้ายกัน แต่เมื่อตรวจสอบไปก็พบว่ายังมีชีวิตอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับมาวางแผนเพื่อเริ่มต้นใหม่” รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวและว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาอีกว่า มีผู้พบเห็นกระเป๋าใบดังกล่าวลอยน้ำผ่านบริเวณหน้าเมืองกาญจนบุรี ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะจุดที่พบศพนั้นอยู่ห่างกันมากกว่า 10 กิโลเมตร
อีกทั้งบริเวณที่พบเป็นจุดที่แม่น้ำแควใหญ่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแควน้อย เป็นต้นแม่น้ำแม่กลอง และตลอดเส้นทางของแม่น้ำมีผักตบชวา และสวะขวางอยู่เป็นช่วงๆ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกันว่า จุดทิ้งศพอาจจะเป็นที่แม่น้ำแควน้อย หรือแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งจะต้องจำลองเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ผู้บังคับบัญชาได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าทุกวัน ซึ่งก็ได้รายงานความคืบหน้าในคดีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกวันเช่นกัน ประเด็นสำคัญที่สุดที่เจ้าหน้าที่ค่อนข้างหนักใจ คือ ยังไม่สามารถระบุได้เลยว่าหญิงสาวที่เสียชีวิตนั้นเป็นใคร หากทราบเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
“ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 7 รวมทั้งตำรวจ สภ.ท่าม่วง และตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวก็ได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตามจุดต้องสงสัยที่ผู้ตายทำงานอยู่ เช่น สถานบริการต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสที่ชัดเจน” พ.ต.อ.ชินภัทร กล่าว
“ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า ใครมีเบาะแส หรือสงสัยว่ามีใครหายตัวไปขอให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเราทราบด้วย ซึ่งขณะนี้เรามีลายนิ้วมือของหญิงสาวที่เสียชีวิตแล้ว หากแจ้งเข้ามาเจ้าหน้าที่เพียงแค่นำลายนิ้วมือของบุคคลนั้นมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตก็จะทราบทันทีว่าผู้ตายนั้นเป็นใคร ซึ่งจะง่ายต่อการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคดีนี้ถึงแม้เจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะหนักใจ แต่จะพยายามทำให้ถึงที่สุดจนกว่าจะทราบว่าเป็นใคร”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบศพหญิงสาวนิรนามถูกฆ่ายัดกระเป๋าเดินทางแบบมีล้อเลื่อนยี่ห้อ POLOGY สีแดง กว้าง 50 เซนติเมตร ยาว 80 เซนติเมตร สูง 30 เซนติเมตร ลอยอยู่กลางแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 2 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ภายในมีก้อนหินขนาดใหญ่ 2 ก้อน ถุงพลาสติกบรรจุก้อนหินที่ใช้สำหรับตกแต่งบ้าน จำนวน 1 ถุง กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบวัยรุ่น 1 ตัว เสื้อสไตล์วัยรุ่นสีดำ 1 ตัว เสื้อชั้นในสีดำ 1 ตัว กางเกงในสีชมพู 1 ตัว ประเป๋าสตางค์เปล่า 1 ใบ รองเท้าส้นสูง 1 คู่ เจ้าหน้าได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพอยู่ในสภาพเปลือยมีบาดแผลบริเวณหน้าผากซ้ายยาวประมาณ 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่ได้นำไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เหตุเกิดวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา
วันนี้ (11 พ.ย.) พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างรู้สึกแปลกใจเช่นกันว่า ทำไมไม่มีญาติ หรือผู้ปกครองแจ้งเข้ามาว่าบุตรหลาน หรือคนรู้จักหายตัวไป จนปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และใครเป็นฆาตกร แต่ที่ผ่านมา ก็มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามาบ้าง แต่จากการตรวจสอบก็พบว่าทุกคนยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ติดต่อกับทางญาติไม่ได้เท่านั้น
“สำหรับหญิงสาวรายแรกที่มีเพื่อนที่เป็นโคโยตี้ด้วยกันแจ้งเข้ามา ทำให้เจ้าหน้าที่โล่งใจคิดว่าคงใช่แน่ๆ เพราะการแต่งกาย และมีรูปร่างที่คล้ายกัน แต่เมื่อตรวจสอบไปก็พบว่ายังมีชีวิตอยู่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกลับมาวางแผนเพื่อเริ่มต้นใหม่” รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวและว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา มีพลเมืองดีแจ้งเข้ามาอีกว่า มีผู้พบเห็นกระเป๋าใบดังกล่าวลอยน้ำผ่านบริเวณหน้าเมืองกาญจนบุรี ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะจุดที่พบศพนั้นอยู่ห่างกันมากกว่า 10 กิโลเมตร
อีกทั้งบริเวณที่พบเป็นจุดที่แม่น้ำแควใหญ่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแควน้อย เป็นต้นแม่น้ำแม่กลอง และตลอดเส้นทางของแม่น้ำมีผักตบชวา และสวะขวางอยู่เป็นช่วงๆ แต่ก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกันว่า จุดทิ้งศพอาจจะเป็นที่แม่น้ำแควน้อย หรือแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งจะต้องจำลองเหตุการณ์อีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ผู้บังคับบัญชาได้ติดตามสอบถามความคืบหน้าทุกวัน ซึ่งก็ได้รายงานความคืบหน้าในคดีนี้ให้ผู้บังคับบัญชาทราบทุกวันเช่นกัน ประเด็นสำคัญที่สุดที่เจ้าหน้าที่ค่อนข้างหนักใจ คือ ยังไม่สามารถระบุได้เลยว่าหญิงสาวที่เสียชีวิตนั้นเป็นใคร หากทราบเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน
“ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 7 รวมทั้งตำรวจ สภ.ท่าม่วง และตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวก็ได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตามจุดต้องสงสัยที่ผู้ตายทำงานอยู่ เช่น สถานบริการต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปแต่ก็ยังไม่มีเบาะแสที่ชัดเจน” พ.ต.อ.ชินภัทร กล่าว
“ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอีกครั้งหนึ่งว่า ใครมีเบาะแส หรือสงสัยว่ามีใครหายตัวไปขอให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเราทราบด้วย ซึ่งขณะนี้เรามีลายนิ้วมือของหญิงสาวที่เสียชีวิตแล้ว หากแจ้งเข้ามาเจ้าหน้าที่เพียงแค่นำลายนิ้วมือของบุคคลนั้นมาเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือของผู้เสียชีวิตก็จะทราบทันทีว่าผู้ตายนั้นเป็นใคร ซึ่งจะง่ายต่อการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคดีนี้ถึงแม้เจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะหนักใจ แต่จะพยายามทำให้ถึงที่สุดจนกว่าจะทราบว่าเป็นใคร”
