ศูนย์ข่าวศรีราชา - ที่แท้คดีช่างรับเหมาก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ตกช่องลิฟต์ 7 ชั้น เป็นคดีฆาตกรรม หลังตำรวจแสนสุขพบค้อนเปื้อนเลือดและคุมตัวแรงงานต่างด้าวชาวพม่าไปสอบสวนจนรับสารภาพ เหตุทำไปเพราะแค้นหลังโดนเพื่อนล้อ จนรู้ว่าภรรยาของตนเองในอดีตเคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับผู้ตายมาก่อน
จากกรณี นายอุทัย ศรีมารักษ์ หรือช่างทัย ช่างผู้รับเหมาก่อสร้างอพาร์ตเมนต์ 8 ชั้น แสนวรี ตรงข้ามสำนักงานเทศบาลเมืองแสนสุข ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ตกช่องลิฟต์เสียชีวิต
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข โดย พ.ต.ท.ปพนธ์พัชร์ ใบยา สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.แสนสุข ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุปรากฏว่า พบค้อนสีแดงเปื้อนเลือดตกอยู่ในอาคาร จึงต้องทำการพลิกคดีสอบสวนสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ พบเป็นการฆาตกรรม เพราะที่ใบหน้าของผู้ตายสภาพเละ แต่ตรวจสอบแล้วพบมีร่องรอยถูกคนร้ายใช้ค้อนทุบก่อนแล้วจึงตกช่องลิฟต์ดังกล่าว
กระทั่งตำรวจได้นำแรงงานต่างด้าวชาวพม่า ลาว และกัมพูชากว่า 70 คน ไปทำการควบคุม และตรวจดีเอ็นเอ แต่ก็ยังไม่พบร่องรอยการมีพิรุธ ต่อมา ได้เข้าทำการตรวจสอบที่แคมป์คนงานที่ซอยสแกนดิเนเวีย ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี พบเสื้อเปื้อนเลือดของนายปาย แรงงานพม่า อายุ 21 ปี จึงยึดพาสปอร์ตไว้ และเป็นช่างก่อสร้างลูกน้องของช่างทัย ผู้ตาย จึงทำการสอบสวนเป็นเวลานานเกือบชั่วโมง
ต่อมา นายปาย ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือสังหารช่างทัยเอง เพราะหึงหวงเนื่องจากมาทราบว่า ภรรยาของนายปาย ที่เป็นแรงงานพม่าด้วยกันอดีตเคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับช่างทัย มาก่อน แต่ได้เลิกกับช่างทัย แล้ว และได้มารักชอบอยู่กินกับนายปาย จนนายปายโดนเพื่อนล้อ
เมื่อนายปาย ทราบว่าภรรยาของตนเคยมีความสัมพันธ์กับช่างทัย กันมาก่อนจริง จึงเกิดความแค้นและวางแผนเอาค้อนขึ้นดักรอ พอช่างทัย มาตรวจงานที่บริเวณชั้น 7 นายปาย จึงเอาค้อนไล่ตีหัวช่างทัย 2 ครั้งทำให้ช่างทัยวิ่งหนีตาย และพลาดพลัดตกตึกดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายปาย ไปดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทารุณกรรมโดยเจตนา