ศูนย์ข่าวศรีราชา - รองผู้การฯ ชลบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข อาวุธครบมือกว่า 30 นาย เร่งนำตัวผู้ต้องหาฆ่าโหด 2 ผัวเมียซึ่งเป็นนายจ้างเก่าร้านขายอาหารทะเลในตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตั้งแต่เช้าตรู่ หวั่นชาวบ้าน และญาติผู้ตายรู้ข่าวเข้ารุมประชาทัณฑ์หลังต้องเลื่อนการทำแผนจากเมื่อวาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ (7 พ.ย.) พ.ต.อ.ศักดิ์รพี เพียวพณิช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชาติชาย รื่นถวิล รอง ผกก.สส.สภ.แสนสุข ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือกว่า 30 นาย เข้าตรวจสอบ และคุ้มกันพื้นที่ หลังนำตัว นายสนธยา คงดี อายุ 51 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมพร้อมลูกชาย ซึ่งเป็นเยาวชนในข้อหาใช้ค้อน ไม้ก้านร่ม และแป๊บน้ำอะลูมิเนียม ก่อเหตุสังหาร 2 สามีภรรยา เจ้าของร้านขายอาหารทะเลสด “มังกี้ซีฟูด1” ถนนสายอ้างศิลา-บางแสน ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
สาเหตุเพราะโกรธแค้นที่ถูกไล่ออกจากงาน เนื่องจากเข้างานสายเป็นประจำ และอีกสาเหตุคือเจ้าของร้านไม่ยอมรับกิ๊กเข้าทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ จึงแอบเข้ามาโจรกรรมทรัพย์สิน และสังหารเจ้าของร้านจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในช่วงบ่ายวันก่อน (6 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่เนื่องจากทราบว่ามีชาวบ้าน และญาติพี่น้องผู้ตายจำนวนมากที่โกรธแค้นเตรียมรุมประชาทัณฑ์ จึงต้องยกเลิกการทำแผน และเปลี่ยนมาเป็นช่วงเช้าวันนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายสนธยา หรือเป้ มาเพียงคนเดียว และได้จำลองเหตุตั้งแต่เริ่มต้นลงมือ ตั้งแต่นายเป้ ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมลูกชายจอดไว้ริมทะเลห่างจากร้านเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร และรอเวลาจนถึงประมาณ 02.00 น.เมื่อเห็นไฟที่ร้านปิด ทำให้คิดว่า 2 สามีภรรยาเข้าห้องนอนแล้วจึงพากันเดินลงไปทางทะเล ก่อนจะปีนเข้าบันไดกลางร้าน ก่อนหยิบแป๊บน้ำเหน็บหลัง และตรงเข้าไปที่เครื่องเก็บเงิน
แต่เนื่องจากเจ้าของร้านที่เป็นผู้ชายเห็นเหตุการณ์ ผู้ต้องหาจึงคว้าก้านร่มที่อยู่หน้าร้านฟาดหัวหลายครั้ง เมื่อเห็นว่ายังไม่เสียชีวิต และได้วิ่งหนีเข้าไปในห้องนอนที่มีภรรยาอยู่ภายในห้อง จึงใช้แป๊บน้ำกระหน่ำตีทั้ง 2 พร้อมใช้ค้อนทุบหัว และใบหน้าจนตาย ก่อนจะลากศพทั้ง 2 คนมากองรวมกันหวังจะเผาทำลาย แต่เนื่องจากศพเปียกเลือดจึงไม่ติดไฟ ผู้ต้องหาพร้อมลูกชายจึงช่วยกันสับคัตเอาต์เพื่อปิดไฟในร้าน และช่วยกันโจรกรรมทรัพย์สินก่อนกระโดดลงจากบันไดพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพดังกล่าว ใช้เวลาประมาณ 45 นาที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งนำตัวผู้ต้องหากลับสถานีตำรวจภูธรแสนสุขเพื่อดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่าชาวบ้านที่รู้ข่าวจะพากันมารุมประชาทัณฑ์