ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เกิดเหตุเครื่องบินสายการบินไทยเที่ยวบินที่ TG047 ขอนแก่น-สุวรรณภูมิ ไถลตกรันเวย์ขณะเตรียมทำการขึ้นบิน ผู้โดยสารและลูกเรือรวมกว่า 260 คนปลอดภัย ขณะที่ผู้โดยสารตกค้างอื้อ
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. คืนวันที่ 3 พ.ย. 57 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG047 ไถลตกรันเวย์ขณะเตรียมขึ้นบินจากท่าอากาศยานขอนแก่นไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ว่าที่ ร.ต.อัธยา ลาภมาก ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานขอนแก่น กรมการบินพลเรือน กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าว รุ่น A330 โดยล้อตกจากรันเวย์บริเวณจุดกลับปลายรันเวย์ที่ 22 ขณะที่กำลังจะทำการบินขึ้น ในเครื่องมีกัปตัน 2 คน ลูกเรือ 11 คน ผู้โดยสาร 246 คน ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย สินค้าใต้ท้องเครื่องไม่เสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเคลื่อนย้ายอากาศยานให้พ้นการกีดขวาง
“ท่าอากาศยานฯ ได้ปฏิบัติตามกฎการบินพลเรือนอย่างเคร่งครัดและเป็นไปตามหลักการบินสากล โดยได้ทำการจัดรถกู้ชีพ รถพยาบาล และรถดับเพลิงเข้าควบคุมเหตุการณ์ รวมทั้งการระดมรถสำหรับการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารทั้งหมดมายังภายในสนามบิน ทั้งนี้ การบินไทยได้นำผู้โดยสารทั้งหมดมาพักที่โรงแรมในตัวเมือง เพื่อเดินทางต่อด้วยสายการบินไทยสมายล์เที่ยวเช้าวันนี้ (4 พ.ย.) ที่สนามบินอุดรธานี บางส่วนขอคืนตั๋วโดยสารเนื่องจากไม่ต้องการเดินทางต่อ”
ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานขอนแก่นกล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อสายการบินนกแอร์ที่มีกำหนดบินลงที่สนามบินขอนแก่นในเวลาไล่เลี่ยกัน ต้องนำผู้โดยสารทั้งหมดไปลงที่อุดรธานีแทน และผู้โดยสารที่รอขึ้นเครื่องและบินเข้าดอนเมืองกว่า 150 คน ทางสายการบินนกแอร์ก็ได้จัดรถไปส่งขึ้นเครืองที่สนามบินอุดรธานีเช่นกัน
ทั้งนี้ สำหรับการเก็บกู้เครื่องเพื่อเคลียร์รันเวย์นั้นได้ประสานการบินไทยแล้ว รวมทั้งประสานขออุปกรณ์สนับสนุนและบอลลูนกู้ภัยมายกลำเครื่องบินดังกล่าว ทั้งนี้ได้สั่งหยุดทำการบินตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าการเก็บกู้จะแล้วเสร็จ ชึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ซึ่งจะส่งผลต่อการเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารของสายการบินต่างๆ ที่มีกำหนดตารางการบินวันละกว่า 10 เที่ยวบินต้องยกเลิกไปอย่างไม่มีกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ายังคงมีผู้โดยสารบางส่วนที่ตกค้างจากสายการบินไทย เนื่องจากต้องการเดินทางต่อด้วยรถโดยสาร รถไฟ และสนามบินข้างเคียง แต่การบินไทยนั้นไม่ได้จัดรถให้ทำให้ต้องอาศัยรถยนต์ของผู้ที่ผ่านไปมาไปส่งตามจุดต่างๆ แทน