จันทบุรี - สภาพอากาศแปรปรวนฝนสลับร้อน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรปลูกมะลิ และทุเรียนพันธุ์หมอนทองในจังหวัดจันทบุรี ทั้งดอกเป็นรา เน่ามีหนอน และให้ผลผลิตน้อย วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่มีลักษณะฝนสลับแดด กำลังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกมะลิ และทุเรียนพันธุ์หมอนทองในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะทำให้ผลผลิตมะลิ ดอกเป็นรา มีหนอน และให้ผลผลิตน้อย ในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน ก็ได้รับผลกระทบจากสภาพดอกที่เกิดอาการฝ่อ และเกิดโรคเชื้อราระบาดจนผลิตออกล่าช้า
โดย นางสารภี ปิยะพงศ์ไพศาล เกษตรกรผู้ปลูกมะลิในพื้นที่หมู่ 5 ตำบลตะปอน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ซึ่งปลูกสวนมะลิส่งขายในเนื้อที่ 1ไร่ หรือประมาณ 2,000-3,000 ต้น กล่าวว่า สวนมะลิส่งขายกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะดอกเป็นรา เน่า และมีหนอนกัดกินจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ผลผลิตที่จะเก็บส่งขายให้แก่พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อก็มีน้อยลง ทำให้รายได้ที่เคยได้ในแต่ละเดือนกว่า 30,000 บาท เหลือเพียง 20,000-25,000 บาทเท่านั้น
สวนทางกับราคามะลิในปีนี้ที่มีแนวโน้มว่าจะดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 600-700 บาท
“นอกจากสภาพอากาศที่แปรปรวนแล้ว ยังต้องเผชิญปัญหาศัตรูพืช ทั้งหนอนกินดอก หนอนเจาะดอก จนทำให้ผลผลิตเกิดความเสียหายเพราะกำจัดได้ยากเนื่องจากไม่สามารถพ่นยาฆ่าแมลงได้ นอกจากนี้ เชื้อราที่มากับฝน และสภาพอากาศร้อนชื่นยังทำให้เชื้อราเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ทำให้ดอกมะลิเหี่ยว และกระทบถึงโคนต้นด้วย” นางสารภี กล่าว
เช่นเดียวกับ นางมัลลิกา แววสว่าง เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง และพันธุ์กระดุม ในเนื้อที่ 7 ไร่ ในตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง ที่กล่าวว่า กำลังประสบปัญหากับสภาพอากาศฝนสลับร้อนเช่นกัน โดยต้นทุเรียนที่ติดดอกออกผล เกิดปัญหาดอกฝ่อ เชื้อราระบาด และกระทบต่อผลผลิตที่ออกล่าช้าจนต้องเร่งฉีดยาในทุกๆ 7 วัน เพื่อป้องกันโรคเชื้อราระบาด
“ส่วนดอกฝ่อไม่สามารถแก้ไขได้ ทำให้สวนทุเรียนในเนื้อที่ 7 ไร่ เกิดความเสียหายแล้วกว่า 3 ไร่ และยังส่งผลให้ผลผลิตที่จะออกในปีหน้าเกิดความล่าช้า ในส่วนนี้ก็อยากขอคำแนะนำ หรือขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่มาดู และช่วยเหลือเกษตรกร เพราะหากปล่อยไว้สวนทุเรียนของเกษตรกรอาจจะได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น” นางมัลลิกา กล่าว