บุรีรัมย์ - แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติลาว พม่า และกัมพูชา แห่ขึ้นทะเบียนขออนุญาตทำงานตามนโยบายรัฐบาล และ คสช. ที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้านแบบเบ็ดเสร็จจัดหางานบุรีรัมย์วันสุดท้ายคึกคัก ขณะจัดหางานชี้เอาผิดทั้งนายจ้างและต่างด้าวที่ฝ่าฝืนไม่มาแจ้งขึ้นทะเบียนทำงานอย่างถูกต้อง
วันนี้ (31 ต.ค.) บรรยากาศที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้านแบบเบ็ดเสร็จที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว และการค้ามนุษย์ เป็นวันสุดท้าย ได้มีนายจ้างและแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ พม่า ลาว และกัมพูชาแห่มายื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนอย่างคึกคัก เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบสัญชาติ และอนุญาตให้ทำงานอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และอนุญาตทำงานตามกฎหมายต่อไป
จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่ที่มีการเปิดศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้าน เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ได้มีแรงงานต่างด้าวทั้ง 3 สัญชาติมาแจ้งขึ้นทะเบียนรวมจำนวน 1,659 คน ในจำนวนนี้แยกเป็นแรงงานชาวพม่า และผู้ติดตาม 194 คน ชาวกัมพูชา 1,235 คน และสัญชาติลาว 230 คน รวมทั้งสิ้น 1,659 คน ซึ่งหลังเสร็จสิ้นการขึ้นทะเบียนแล้ว แรงงานต่างด้าวดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จ เพื่อที่จะขอรับใบอนุญาตทำงานต่อไป
นายอนันต์ กลั่นขยัน จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า สำหรับนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่ไม่มาขึ้นทะเบียนและลักลอบจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมายนั้น หากตรวจพบนายจ้างรายใดลักลอบจ้างแรงงานต่างด้าวโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานจะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2551 โดยมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อการจ้างแรงงาน 1 คน ส่วนแรงงานต่างด้าวจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน นายจอม จั่นกลาง อายุ 55 ปี เจ้าของไร่อ้อย ตำบลโคกมะม่วง อ.ประคำ จ.บุรีรัมย์ นำแรงงานชาวกัมพูชามาขึ้นทะเบียนที่ศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานเพื่อนบ้าน จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นครั้งที่ 2 บอกว่า ได้รับความสะดวกเป็นอย่างมาก มีเจ้าหน้าที่จัดหางาน และสำนักทะเบียนที่ทำการปกครองจังหวัดบุรีรัมย์คอยให้บริการ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
