ระยอง-พบรถคนร้ายยิงสมาชิก อบจ.ระยอง เสียชีวิต ซุกโกดังขายปุ๋ยใกล้วัดเขาโบสถ์ พร้อมตู้ม้า โดยรถมีรอยถูกกระสุนปืนยิงหลายจุด
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดียิง นายวิษณุ เกตุสุริยา สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง เสียชีวิต เป็นคนสนิท นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง เหตุเกิดบริเวณถนนสายทับมา-เขาโบสถ์ หมู่ 7 ต.เมืองระยอง เมื่อกลางดึกวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ระยอง ได้เข้าตรวจสอบโกดังขายปุ๋ยแห่งหนึ่งตั้งอยู่เยื้องวัดเขาโบสถ์ ต.ทับมา พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กท 2572 ระยอง ตรงกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุจอดอยู่ รวมทั้งพบตู้ม้า จำนวน 3 ตู้ จึงได้นำรถไปยกมาเก็บไว้ที่ สภ.เมืองระยอง ส่วนตู้ม้าไม่ทราบว่าตำรวจนำไปซุกไว้ที่ใด
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ระยอง เข้าตรวจสอบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวพบกระจกหน้าด้านซ้ายมีรูกระสุน 1 รู ทะลุหลังคารถ และที่กระจกประตูรถด้านหลังคนขับมีรูกระสุน 1 รู ทะลุไปโดนคอนโซลหน้า และที่ประตูด้านคนขับมีรอยกระสุน 1 รู และที่บริเวณมือจับประตูด้านคนขับมีคราบเลือดติดอยู่เล็กน้อย ส่วนท้ายรถมีร่อยถูกชนพังยับ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยังไม่พบกระสุนตกภายในรถ รวมทั้งทรัพย์สินภายในก็ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานอะไรบ้างหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ให้คำตอบแต่อย่างใด พร้อมกำชับให้นักข่าวอยู่ห่างๆ ไม่ให้เข้าใกล้รถ
ขณะที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ระยอง ลูกพี่นายวิษณุ เกตุสุริยา ผู้ตายให้สัมภาษณ์สื่อว่า วันนี้ตำรวจพบรถยนต์ของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ มีรอยถูกกระสุนปืนยิง ตำรวจต้องตรวจโดยละเอียดว่า พบหัวกระสุนปืนภายในรถหรือไม่ และเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนร้ายเพื่อต่อสู้คดีหรือไม่ เพื่อเบี่ยงเบนคดีให้เป็นการป้องกันตัว เพื่อจะกล่าวหาว่าผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงก่อน จึงยิงต่อสู้ป้องกันตัว
เรื่องนี้ตำรวจต้องให้ความรอบคอบ กระสุนที่ยิงใส่รถคนร้ายเป็นกระสุนจากอาวุธปืนของใคร ซึ่งมีความชัดเจนว่าไม่ใช่เป็นปืนของผู้ตาย เนื่องจากพิสูจน์ปืนของผู้ตายยังไม่มีการขึ้นลำปืน และยังไม่มีการยิง เรื่องนี้กองพิสูจน์หลักต้องตรวจให้ชัดเจนว่ารูกระสุนปืนแต่ละจุดที่ยิงใส่รถคนร้ายเป็นรอยกระสุนปืนขนาดใด
ที่สำคัญรถคนร้ายไปจอดซุกอยู่ในที่ของเอกชนหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินการตั้งข้อหาผู้ที่ให้สถานที่ซุกรถยนต์คันก่อเหตุ
ส่วนกรณีที่ยังคาใจหลังได้รับข้อมูลก่อนเกิดเหตุว่า มีรถยนต์ต้องสงสัยรวม 2 คัน มีคนร้ายจำนวน 3-4 คน แต่มีการออกหมายจับเหลือ 2 คน ส่วนอีกคนที่ตำรวจอ้างว่ามาหลังเกิดเหตุ ตำรวจต้องเจาะให้ลึกมากกว่านี้ อย่าไปเชื่อคำให้การ ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พร้อมตรวจสอบภาพรถยนต์ในคืนเกิดเหตุว่ามีรถยนต์ 2 คันหรือไม่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือช่วงเวลาที่มีการรับสาย ก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ที่ให้การว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับโทร.ตามให้มา
นายสาธิต กล่าวต่อไปว่า ระหว่างนี้ผมก็เก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อจะได้สอบถามเรื่องที่ยังคาใจ ที่ญาติผู้เสียชีวิตสงสัยกรณีไม่พบหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ และคนร้ายที่ก่อเหตุมีมากกว่า 2 คน ตำรวจต้องตอบให้ได้ ไม่ใช่ตอบด้วยความเชื่อ ต้องตอบพร้อมด้วยพยานหลักฐาน และเหตุผล เพื่อให้ทุกฝ่ายได้มีความสบายใจ ทั้งญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งผมก็จะได้สบายใจ ที่สำคัญบริเวณใกล้วัดเขาโบสถ์ ต.ทับมา มีการซ่องสุมบุคคลที่กระทำผิดนอกกฎหมาย เป็นผู้ต้องหาในคดีต่างๆหนีมาหลบซ่อน เรื่องนี้ตำรวจต้องไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีอาวุธสงคราม และคนที่กระทำผิดมาหลบซ่อนไว้หรือไม่ เนื่องจากคนที่กระทำผิดหลังก่อเหตุได้นำรถยนต์ไปซุกไว้ ฝากไปถึง ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.ระยอง และเจ้าคณะจังหวัดระยอง ต้องมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง และผมจะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด คดีนี้เกิดขึ้นในขณะที่มีการประกาศกฎอัยการศึก ทุกอย่างต้องโปร่งใส ไม่มีเงื่อนงำ