ตาก - เจ้าอาวาสวัดดังเมืองตากยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอแล้ว หลังเก็บเงินสดกว่า 43 ล้านบาทไว้ในกุฏิผิดกฎระเบียบ-ข้อห้าม แถมยังพบวัดมีเงินฝากเพิ่มอีก 3 บัญชี รวมวงเงินที่พบภายหลังกว่า 30 ล้านบาท พร้อมตั้งคนนอกเป็นกรรมการเพิ่มอีก 5 คน จากเดิมที่มีเฉพาะคนในสายสกุล “คงปาน และอุปคุต” ของพระครูดัง
วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีวัดพระบรมธาตุบ้านตาก อ.บ้านตาก จ.ตาก เก็บเงินสดที่ได้รับจากการบริจาคไว้ในกุฏิเจ้าอาวาสมากกว่า 43 ล้านบาท เป็นแบงก์พัน 42 ล้านบาท ที่เหลือเป็นแบงก์ย่อยอื่นๆ ซึ่งต่อมาได้มีการนำเงินจำนวน 42 ล้านบาทฝากเข้าบัญชีธนาคารออมสิน นอกจากนี้ยังพบเงินของวัดฝากไว้ในธนาคารเพิ่มเติม รวมเป็นกว่า 60 ล้านบาท
ล่าสุดมีรายงานว่า พระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน คงปาน) เจ้าอาวาสวัด ที่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านตาก ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอบ้านตาก ต่อพระราชวิทยาคม เจ้าคณะจังหวัดตาก ซึ่งจะต้องส่งเรื่องขอลาออกให้พระเดชพระคุณพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 5 พิจารณาต่อไป เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีการเก็บเงินสดจำนวนมากไว้ในกุฏิ ในฐานะพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ ย่อมรู้กฎระเบียบข้อห้ามต่างๆ
หลังจากพระราชวิทยาคม เจ้าคณะจังหวัดตาก ได้มอบหมายให้พระมหาบุญส่ง ปุญญกุสโล เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตาก พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ สะมะโน นักวิชาการศาสนาชำนาญการ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดตาก เข้าพบพระครูพิทักษ์บรมธาตุ (พาน คงปาน) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเก็บรักษาเงินสดดังกล่าว
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นอกจากเงินที่นำฝากเข้าบัญชีธนาคารออมสินสาขาบ้านตาก 2 บัญชี บัญชีแรก 20 ล้านบาท บัญชีที่ 2 จำนวน 22 ล้านบาท และมีเงินในบัญชีธนาคารออมสิน สาขาบ้านตาก อีกหนึ่งบัญชี จำนวนเงิน 17,500,000 บาท และบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาบ้านตาก ซึ่งเป็นเงินกฐิน อีกหนึ่งบัญชี จำนวน 1,100,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 60,800,000 บาทแล้ว ยังมีเงินบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร อีกประมาณ 15 ล้านบาท
จากรายการบัญชีเงินฝากต่างๆ ที่ทางคณะสงฆ์จังหวัดตาก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ถือว่าการเก็บรักษาเงินไว้เองภายในวัดเป็นการเก็บรักษาเงินไม่ถูกต้อง ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2511) ข้อ 5 ที่ระบุว่า การเก็บรักษาเงินของวัดส่วนที่เกินกว่าสามพันบาท ให้เก็บรักษาโดยฝากกรมการศาสนา จังหวัด อำเภอ หรือธนาคาร ในนามของวัด และในมาตรา 2 แห่ง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2535 ที่ระบุว่า คณะสงฆ์ต้องอยู่ภายใต้การปกครองของมหาเถรสมาคม และมาตรา 20 ทวิ เจ้าอาวาส ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ และกฎกระทรวง
ขณะเดียวกันทางวัดได้ตั้งกรรมการขึ้นมาดูแลเงินของวัดเพิ่มเติมตามที่มีการเรียกร้อง รวมเป็น 9 คน โดยมีกรรมการคนใหม่ 5 คน คือ นายสุรสิทธิ์ สุขสบาย, นายยุทธศักดิ์ หลำคำ, นายภูษิต สายคำ, นายยิ่งศักดิ์ วีวัง และนายถาวร แหกาวี เป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความไว้วางใจว่าจะสามารถคานอำนาจต่างๆ ภายในวัดโดยเฉพาะด้านการเงิน เพื่อความบริสุทธิ์ โปร่งใส ตรวจสอบได้
จากเดิมที่มีกรรมการอยู่แค่ 4 คน คือนายยา อุปคุต ช่างก่อสร้างในวัด, นายเหรียญชัย สอนทิพย์ กำนันตำบลเกาะตะเภา, นายนิตย์ คงปาน และนายลาด คงปาน ซึ่งทั้งหมดเป็นเครือญาติ เกี่ยวเนื่องกับสายสกุลของพระครูพิทักษ์บรมธาตุ ได้แก่ สกุล “คงปาน และ อุปคุต”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการตั้งข้อสังเกตการสร้างศาลาหลักเมืองท่าน้ำพระบรมธาตุ ที่จะใช้งบประมาณ 2 ล้านบาท แต่ไม่มีโครงการ ไม่มีแบบแปลน ไม่มีรายการค่าวัสดุ ค่าแรงงานต่างๆ ที่ใช้ในการก่อสร้าง และทำการรื้อไปแล้ว โดยการอนุมัติของกรรมการเดิมเพียง 2 คน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ก่อนที่จะเป็นเหมือนกับการสร้างพิพิธภัณฑ์ที่ผ่านมา มีการใช้เงินเพียง 2 คน แต่ไม่มีรายละเอียด