ระยอง - ตำรวจมุ่งประเด็นทะเลาะวิวาทซึ่งหน้า เหตุ ส.จ.คนดังถูกยิง เร่งตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยก่อเหตุ 2 คัน
วันนี้ (26 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิง นายวิษณุ เกตุสุริยา อายุ 45 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง คนสนิท นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต ส.ส..ระยอง เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เสียชีวิตริมถนนทับมา-เขาโบสถ์ หมู่ 7 ต.ทับมา อ.เมือง จ.ะยอง เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า
พล.ต.ต.ชุมพล ฉันทะจำรัสศิลป์ ผบก.ภ.จว.ระยอง กล่าวว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ระดมกำลังช่วยกันเพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งมีความคืบหน้าพอสมควร จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ และตลอดเส้นทางในช่วงเวลาเกิดเหตุ พบภาพรถยนต์ต้องสงสัยวิ่งไปทางวัดเขาโบสถ์ 2 คัน โดยวิ่งตามกันมา รถยนต์คันแรกสีบรอนซ์ทอง อีกคันเป็นสีดำ แต่เนื่องจากเส้นทางสายนี้เป็นทางเปลี่ยว และมืดมาก ทำให้ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีตรวจสอบภาพจากวงจรปิดอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาบ้าง
ส่วนสาเหตุตำรวจให้น้ำหนักไปที่เกิดเหตุทะเลาะซึ่งหน้า จากการสอบถามพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวิษณุ ผู้ตายได้ขับรถไปส่งลูกค้าชาวต่างชาติที่มานั่งดื่มที่ร้าน Y 33 ถนนราษฎร์บำรุง ต.เนินพระ จนเมาไม่สามารถกลับบ้าน ผู้ตายจึงขับรถไปส่ง แต่ชาวต่างชาติกลับจำบ้านไม่ได้ จึงต้องขับย้อนกลับมาส่งที่ร้าน ระหว่างทางชาวต่างชาติได้โยนสิ่งของออกจากรถไปถูกรถยนต์ที่วิ่งตามหลังมา จึงเกิดการกระทบกระทั่งกัน หลังจากผู้ตายมาส่งที่ร้านแล้ว ก็ออกไปโดยนำอาวุธปืนไปด้วยจนเกิดเหตุร้ายขึ้น
ส่วนจะถามว่าคนร้ายมีกี่คน ใช้อาวุธปืนยิงถูกพวกเดียวกัน เพราะพบเลือดหยดเป็นทางในที่เกิดเหตุหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เพราะช่วงเกิดเหตุดึกมาก และเป็นที่เปลี่ยว แต่ก็เป็นอีกแนวทางที่ตำรวจจะต้องสืบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงในภาค 2 กำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข่าวแก่สื่อมวลชน โดยให้ พล.ต.ต.ชุมพล เป็นผู้ให้ข่าวเพียงคนเดียว
ล่าสุด ผลการตรวจชันสูตรพลิกศพ นายวิษณุ จากสถาบันนิติเวช พบว่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดรวม 6 นัด กระสุนทะลุทุกนัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งทีมงานตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง ก็ไม่พบหัวกระสุนปืนแต่อย่างใด
ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ให้ความเห็นว่า คนร้ายคดีนี้คาดว่าน่าจะเป็นคนที่อื่น แต่เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากมีคนแปลกหน้าขับรถวิ่งเข้าวิ่งออกบนถนนสายนี้ โดยเฉพาะเวลากลางคืน