ASTV ผู้จัดการออนไลน์- เอสซีจี เคมิคอลส์ ต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแห่งแรกของไทย เผยพัฒนา 11 โรงงานในมาบตาพุด เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศภายในปี 2558
เอสซีจี เคมิคอลส์ ผู้นำนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ล่าสุด 2 บริษัทนำร่องในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด และบริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ได้รับการรับรองเป็นต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) 2 โรงงานแรกของประเทศไทย จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเตรียมเดินหน้าพัฒนาอีก 11 โรงงานในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศทั้งหมดภายในปี 2558 ตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ เพื่อมุ่งยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ปฏิบัติการ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด เปิดเผยว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ ในฐานะต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ มิติด้านโรงงานและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มิติด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการพัฒนาสังคม
ล่าสุด บริษัทฯ ได้นำหลักเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลที่กำหนดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาใช้กับ 2 โรงงานภายในกลุ่มบริษัทฯ ที่มาบตาพุด ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด และบริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ซึ่งทั้ง 2 โรงงานสามารถผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน และได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 2 แห่งแรกของประเทศไทยในวันนี้”
นายสมชาย กล่าวถึงแผนพัฒนาโรงงานในมาบตาพุดว่า “เรามีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ บริษัทจะพัฒนาโรงงานอีก 11 แห่งของเอสซีจี เคมิคอลส์ ในมาบตาพุด จังหวัดระยอง ให้ได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ครบทุกโรงงานภายในปี 2558 ตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท และจะทำให้ทุกโรงงานมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องต่อแผนการดำเนินงานของสมาคมเพื่อนชุมชนที่ต้องการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ”
“สำหรับขั้นตอนการตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) คณะกรรมการตรวจประเมินฯ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา ชุมชน และสื่อมวลชนท้องถิ่น ได้เข้าตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ทั้ง 2 บริษัท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา และคณะกรรมการตรวจประเมินฯ ได้นำผลการตรวจเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาเพื่อให้การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากผลการประเมินในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาให้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนได้อย่างยั่งยืน” นายสมชาย กล่าว
เอสซีจี เคมิคอลส์ ผู้นำนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ล่าสุด 2 บริษัทนำร่องในเอสซีจี เคมิคอลส์ ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด และบริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ได้รับการรับรองเป็นต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) 2 โรงงานแรกของประเทศไทย จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และเตรียมเดินหน้าพัฒนาอีก 11 โรงงานในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศทั้งหมดภายในปี 2558 ตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ เพื่อมุ่งยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่-ปฏิบัติการ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด เปิดเผยว่า “เอสซีจี เคมิคอลส์ ในฐานะต้นแบบโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ มิติด้านโรงงานและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มิติด้านผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการพัฒนาสังคม
ล่าสุด บริษัทฯ ได้นำหลักเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลที่กำหนดโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มาใช้กับ 2 โรงงานภายในกลุ่มบริษัทฯ ที่มาบตาพุด ได้แก่ บริษัท ระยองโอเลฟินส์ จำกัด และบริษัท ไทยโพลิเอททีลีน จำกัด ซึ่งทั้ง 2 โรงงานสามารถผ่านเกณฑ์การตรวจประเมิน และได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 2 แห่งแรกของประเทศไทยในวันนี้”
นายสมชาย กล่าวถึงแผนพัฒนาโรงงานในมาบตาพุดว่า “เรามีจุดมุ่งหมายในการพัฒนาเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ บริษัทจะพัฒนาโรงงานอีก 11 แห่งของเอสซีจี เคมิคอลส์ ในมาบตาพุด จังหวัดระยอง ให้ได้รับการรับรองเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ครบทุกโรงงานภายในปี 2558 ตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัท และจะทำให้ทุกโรงงานมีมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องต่อแผนการดำเนินงานของสมาคมเพื่อนชุมชนที่ต้องการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมในมาบตาพุดให้เป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ”
“สำหรับขั้นตอนการตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) คณะกรรมการตรวจประเมินฯ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา ชุมชน และสื่อมวลชนท้องถิ่น ได้เข้าตรวจประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ทั้ง 2 บริษัท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา และคณะกรรมการตรวจประเมินฯ ได้นำผลการตรวจเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาเพื่อให้การรับรองโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากผลการประเมินในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมมีความตั้งใจจริงในการพัฒนาให้สามารถอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม และชุมชนได้อย่างยั่งยืน” นายสมชาย กล่าว