กรมการบินพลเรือนสั่งสนามบินทั่ว ปท.ตรวจระบบไฟฟ้าป้องกันเพลิงไหม้

อุบลราชธานี - สนามบินนานาชาติอุบลราชธานีเร่งกั้นพื้นที่จัดโซนนิ่งให้บริการผู้โดยสารใหม่ระหว่างปรับปรุงหลังเพลิงไหม้ รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน สั่งตรวจสอบสนามบินทั้ง 28 แห่ง ติดตั้งระบบเตือนภัยและดับไฟอัตโนมัติ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำซ้อนอีก

หลังเกิดเหตุไฟไหม้ภายในอาคารผู้โดยสาร สนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เมื่อกลางดึกวันที่ 17 ตุลาคม ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสายการบินในประเทศที่ต้องล่าช้า ไม่ได้รับความสะดวกเพราะต้องรอซ่อมแซมเป็นเวลานานร่วม 2 เดือนนั้น

นายเสรี จิตต์โสภา รองอธิบดีกรมการบินพลเรือน กล่าวว่า นอกจากมีผลกระทบต่อการให้บริการ ยังมีร้านค้าได้รับความเสียหายไปด้วย ซึ่งจะทำการจัดโซนนิ่งให้บริการใหม่เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ตามปกติ ส่วนห้องสุขาที่ญาติเดินทางมาส่ง และไม่สามารถเข้ามาใช้บริการได้ จะได้ขอรถสุขาเคลื่อนที่จากเทศบาลนครอุบลราชธานีมาให้บริการ

และได้มีคำสั่งให้การท่าอากาศยานทั้ง 28 แห่งทั่วประเทศตรวจสอบระบบการใช้ไฟฟ้าในตัวอาคารไม่ให้มีจุดชำรุดเสียหาย โดยเฉพาะอาคารที่สร้างก่อนปี 2533 ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายบังคับให้มีระบบดับเพลิงในอาคาร ด้วยการติดตั้งระบบการแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือ Fire Alarm ซึ่งจะเป็นสัญญาณแจ้งเหตุไฟไหม้ในอาคาร เพื่อขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งเพิ่มระบบสปริงเกอร์ดับไฟอัตโนมัติเมื่อมีไฟไหม้ในอาคาร เพื่อไม่ให้ลุกลามเหมือนเหตุการณ์ในสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เพราะระหว่างเกิดเหตุรถดับเพลิงของการท่าอากาศยานที่มีอยู่ 2 คัน เข้าทำการดับไฟแล้ว แต่ไม่ทันท่วงที

ดังนั้น สนามบินแห่งไหนยังไม่มีระบบดับไฟอัตโนมัติจะต้องติดตั้งเพิ่มทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก เพราะสนามบินนานาชาติอุบลราชธานีถือว่าเป็นอาคารสนามบินแห่งแรกของประเทศที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น