xs
xsm
sm
md
lg

สืบภาค 2 ร่วมสืบจังหวัดระยอง บุกทลายแก๊งเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ ได้พร้อมของกลางพร้อมผู้ต้องหารวม 14 คน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ระยอง - สืบภาค 2 ร่วมสืบจังหวัดระยอง บุกทลายแก๊งเจ้าแม่เงินกู้รายใหญ่ พร้อมผู้ต้องหารวม 14 คน รถยนต์เก๋ง 2 คัน กระบะ 6 คัน มือถือ 23 เครื่อง เงินสด 100,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร ยอดเงินหมุนเวียนวันละหลายล้านบาท ของกลางคิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

วันนี้ (17 ต.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.มณเฑียร พันธ์อิ่ม รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.สุรพณ มงคลยุทธ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ฐานวัฒน์ ธีรโชติเรืองชัย ผกก.สภ.เมืองระยอง แถลงข่าวจับกุม

ประกอบด้วย 1.นางนิตยา ไชยปัญญา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 ซ.รังสิตปุทมธานี 12 ซ.9 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 2.นายอำพรศักดิ์ แจ่มผล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 495 ม.10 ต.หูช้าง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี

3.นายประสิทธิ นพรัตน์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 ม.11 ต.วังตะเคียน อ.กิ่งหนองมะโม จ.ชัยนาท 4.นายเอกราช กมลเวช อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ซ.รังสิตปทุมธานี 13 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

5.นายสุทัศน์ ใจกล้า อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 ม.7 ต.ชุมพวง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา 6.นายอาทิตย์พงษ์ เพ็งหนู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 ต.วัดสิงห์ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท 7.นายสันทัด ทองเพ็ง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 ม.10 ต.เด่นใหญ่ อ.หันคา จ.ชัยนาท 8.นายทวีศักดิ์ พวงทอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.12 ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี 9.นายแสนศักดิ์ เกาะกลาง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 ม.6 ต.เขาชนกัน อ.แม่วงศ์ จ.นครสวรรค์

10.นายคำวรร สืบเสนาะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 ม.2 ต.แพงใหญ่ เอ.เหล่าเสือโก๊ก จ.อุบลราชธานี 11.นายวิทูลย์ จันทร์ศรี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/2 ม.2 ต.ลานศักดิ์ อ.ลานศักดิ์ จ.อุทัยธานี 12.นายกิตติศักดิ์ ทองพูล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.5 ต.บ้านใหม่คลองเคียน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี 13.นายทโนทัย โสภณศักดิ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/6 ม.9 ต.หนองนางนวล อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี และ 14.นายอุทัย คันทะชิต อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.2 ต.หนองบัว อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร

พร้อมของกลางบัญชีสิ่งของทั้งหมด 27 รายการ เอกสาร จำนวน 2 แผ่น บัญชีกลาง 10 รายการ บัญชีตรวจยึดโทรศัพท์ 14 รายการ บัญชีตรวจยึดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ 10 รายการ เงินสดจำนวน 100,000 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 เครื่อง ไอแพด 1 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารหลายธนาคารกว่า 10 เล่ม คู่มือทะเบียนรถยนต์ และแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์กว่า 10 รายการ เครื่องคิดเลข 6 เครื่อง รถยนต์กระบะ 6 คัน รถยนต์เก๋ง 2 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน บัญชีหมุนเวียนเงินกู้รายวันจำนวนกว่า 10 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 และตำรวจในพื้นที่สืบสวนปราบปรามจับกุมผู้ที่ลักลอบทำธุรกิจการปล่อยกู้เงินนอกระบบโดยผิดกฎหมาย กระทำการเป็นขบวนการในรูปแบบบริษัท มีการแบ่งสาขาย่อยตามเขตพื้นที่ต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อทำการปล่อยเงินกู้นอกระบบให้แก่ประชาชนโดยทั่วไป

โดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด มีการแบ่งหน้าที่การทำงาน ฝ่ายบัญชีทำการรวบรวม ฝ่ายปล่อยกู้เก็บดอกเบี้ย โดยมีพนักงานได้รับมอบหมายจากกลุ่มนายทุนทำหน้าที่เป็นหัวหน้า ผู้จัดการเขตสาขา พนักงานทำบัญชีระดมทุนเงินกู้ซึ่งรวบรวมเอกสารผู้กู้ เช่น บัญชีรายชื่อผู้กู้-ผู้ค้ำ บัตรประชาชนผู้กู้-ผู้ค้ำ หนังสือสัญญาเงินกู้ หนังสือสัญญาร่วมทุน สมุดบัญชีธนาคารรายการโอนเงินต่างๆ บัญชีรายชื่อลูกค้าผู้กู้เงิน พนักงานทำหน้าที่ปล่อยเงินกู้ และติดตามทวงหนี้โดยใช้รถยนต์ และรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการดำเนินการ ทำการรวบรวมเงินกู้ และดอกเบี้ยส่งให้นายทุน

เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 2 ได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า มีกลุ่มนายทุนมาปล่อยเงินกู้ในพื้นที่จังหวัดระยอง และพักอยู่หมู่บ้านปรีชาไพรเวทบีช เลขที่ 183/373 ม.9 ต.ตะพง อ.เมือง ระยอง จึงได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดระยองเข้าตรวจค้น และยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ มีทั้งบัญชีรายชื่อลูกค้า เงินสดที่ปล่อยกู้ และสมุดบัญชีธนาคารการโอนเงิน ซึ่งแก๊งเงินกู้ชุดนี้ได้ออกตระเวนปล่อยเงินกู้ร้อยละ 20 ต่อวัน ซึ่งเป็นดอกลอย ปล่อยเงินกู้ต้นให้ผู้กู้ จำนวน 10,000 บาท จะให้พนักงานเก็บดอกวันละ 500 รวม 24 วัน เป็นเงิน 12,000 บาท และรวบรวมมาส่งให้นางนิตยา ไชยปัญญา ผู้ต้องหาที่รับเป็นผู้ดำเนินการปล่อยกิจการเงินกู้นอกระบบผิดกฎหมาย และจะส่งยอดเงินทั้งหมดมาให้ นางนิตยา เนยคำ นายทุนใหญ่ต่อไป

ส่วนผู้ติดตามเก็บเงินกู้จะได้รับเงินเดือนจาก นางนิตยา เนยคำ เดือนละ 6,000-8,000 บาท/คน และจะมีค่าคอมมิชชันให้อีก 8,000-10,000 บาท จากการตรวจสอบพบว่า มียอดเงินหมุนเวียนวันละจำนวนหลายล้านบาท ทรัพย์สินที่ตรวจยึดคิดเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามยึดทรัพย์ทั้งหมด พร้อมกับติดตามนายทุนใหญ่มาดำเนินคดีต่อไป พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยจัดหามาซึ่งเงินทุน แล้วให้ผู้อื่นกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฏหมายกำหนด ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระยอง ดำเนินคดี



กำลังโหลดความคิดเห็น