นครพนม - ปกครองนครพนมเร่งเคลียร์ข้อพิพาท ชิงพื้นที่ปลูกใบยาสูบริมตลิ่งน้ำโขงเนื้อที่นับพันไร่ หลังผู้นำท้องถิ่นตำบลท่าค้อ ออกโรงต้านเกษตรกรต่างถิ่น
วันนี้(17 ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.นครพนม ว่าหลังเกิดปัญหาข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นหมู่ 13 บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ที่ต่อต้านชาวไร่ยาสูบต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม มาแย่งชิงพื้นที่ทำการเกษตรดอนหมากทัน ริมฝั่งแม่น้ำโขง หมู่ 13 บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ พื้นที่เกือบ 1,000 ไร่
โดยนายบุศดี ยศประสงค์ อายุ 50 ปี เกษตรกรต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนมที่ยึดอาชีพทำการเกษตรปลูกยาสูบริมฝั่งแม่น้ำโขง พร้อมตัวแทนเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาเช่าที่ดินดอนหมากทันริมฝั่งแม่น้ำโขง มานานกว่า 20 ปี โดยเช่ากับกลุ่มบุคคลที่อ้างว่ามีการจับจองเป็นเจ้าของพื้นที่ดอนหมากทัน เนื้อที่เกือบ 800 ไร่ มาต่อเนื่องราคาไร่ละประมาณ 3,500 บาท
แต่พอถึงฤดูการเพาะปลูกปีนี้กับไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ เนื่องจากตัวแทนชาวบ้านหมู่ 13 บ้านหนองจันทร์ ต.ท่าค้อ นำโดยนายอภิสิทธิ์ คำปานกำนันตำบลท่าค้อ ได้ประสานไปยังทางอำเภอ และหน่วยงานเกี่ยวข้องประกาศห้ามไม่ให้เกษตรกรเข้าไปทำการเกษตรเหมือนที่ผ่านมา พร้อมอ้างคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ที่มีคำพิพากษาเมื่อเดือนตุลาคม 2557 กรณีมีตัวแทนชาวบ้านยื่นฟ้องขอพื้นที่คืนเป็นที่ดินสาธารณะให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน ป้องกันการแสวงผลประโยชน์ของนายทุน
โดยทางศาลปกครองชั้นต้น ได้มีคำสั่งให้พื้นที่ดอนหมากทัน เป็นที่สาธารณประโยชน์ใช้ร่วมกัน ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านชาวไร่ยาสูบได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเข้าไปทำการเพาะปลูกได้ และเสียเงินค่าเช่ารวมทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาทไปแล้ว จึงรวมตัวเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านนายอดิศักดิ์ ไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไข
ล่าสุด นายดำรงค์ สิริวิชย อิ่มวิเศษ นายอำเภอเมือง เปิดเผยว่า ตนพร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเรียกตัวแทนชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายมาประชุมหาทางแก้ปัญหา เพื่อให้เกษตรกรเข้าไปเพาะปลูกในฤดูกาลนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เพราะได้เสียเงินค่าลงทุนไปแล้ว และเร่งสอบสวนหานายทุนที่เข้าไปแสวงหาประโยชน์ ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมประกาศให้พื้นที่ดอนหมากทัน เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้ชาวบ้านใช้ร่วมกัน ห้ามไม่ให้กลุ่มบุคคลใดเข้าไปแสวงผลประโยชน์
นายบุญเลิศ อ่อนตา สมาชิกอบต.ท่าค้อ หมู่ 1 ต.ท่าค้อ กล่าวว่า ดอนหมากทันถือเป็นพื้นที่ริมโขง ที่เกิดมาจากสันดอนทรายหลังน้ำโขงแห้ง ทำให้มีพื้นที่ใช้ในการเพาะปลูก ปัจจุบันมีเนื้อที่เกือบ 1,000 ไร่ มีชาวบ้านไปจับจองทำการเกษตรทุกปีเป็นเวลานานกว่า 30 ปี และมีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นผู้ครอบครองมาจับจองเป็นเจ้าของ และให้ชาวบ้านที่ต้องการทำการเกษตรไปเช่าราคาไร่ละ 2,000-3,000 บาท
จนกระทั่งเกิดปัญหา เมื่อชาวบ้านในพื้นที่มองว่าพื้นที่ดังกล่าวน่าจะเป็นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ไม่ควรจะมีผู้เข้ามาแสวงผลประโยชน์ จึงได้มีการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐทำการฟ้องศาลปกครอง ทวงคืนพื้นที่ ให้ชาวบ้านใช้ทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ จึงเป็นปัญหากับชาวบ้านทำการเกษตรปลูกไร่ยาสูบ ที่เช่านายทุนมาทุกปี จนเกิดปัญหาข้อพิพาท อย่างไรก็ตามชาวบ้านต้องการที่จะทวงพื้นที่คืนเพื่อใช้ทำการเกษตร ร่วมกัน และเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ไม่ให้นายทุนมาครอบครอง
นายดำรงค์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินดอนหมากทัน จากการตรวจสอบพบว่าไม่เคยมีเอกสารหลักฐานการขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ เนื่องจากเป็นพื้นที่งอกจากสันดอนแม่น้ำโขง และมีการจับจองทำการเกษตรมานานกว่า 30 ปี จนกระทั่งเกิดปัญหาจากกรณี ชาวบ้านมน ต.ท่าค้อ อ.เมือง ต้องการทวงคืน หลังมีนายทุนเข้าไปจับจองเปิดให้เช่าทำการเกษตรปลูกยาสูบ
ซึ่งตัวแทนชาวบ้านมีการฟ้องร้องระหว่างอบต.ท่าค้อ ในฐานะหน่วยงานท้องถิ่นดูแลรับผิดชอบ ไปยังศาลปกครองเพื่อทวงคืน โดยมีศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 แต่อยู่ระหว่างการอุทธรณ์คำสั่งของอบต.ท่าค้อ ส่งผลกระทบชาวบ้านที่มีการจ่ายค่าเช่านายทุนไร่ละประมาณ 3,500 บาท รวมเกือบ 100 ครอบครัว ไม่สามารถเข้าไปเพาะปลูกได้ เพราะชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยินยอม
จนกระทั่งได้มีการประชุมยุติปัญหาผ่อนผันให้ชาวไร่ยาสูบ เข้าไปเพาะปลูกในฤดูกาลนี้ชั่วคราว ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็ยิมยอม