อุบลราชธานี - สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 ตั้งกรรมการสอบสวนผู้บริหารโรงเรียนจังหวัดอำนาจเจริญ 3 แห่ง เหตุสตง.พบใช้งบสร้างสนามฟุตซอลมากกว่าโรงเรียนอื่นกว่าเท่าตัว ขณะที่อดีตครูระบุกำหนดสเปกและผู้รับเหมาล่วงหน้า เชื่อสาวไม่ถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง
การตรวจสอบทุจริตสร้างสนามฟุตซอล เขตพื้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 ซึ่งดูแล จ.อุบลราชธานี และ จ.อำนาจเจริญ โดยสำนักงานตรวจสอบพิเศษภาค 5 จ.อุบลราชธานี สตง. ได้เข้าตรวจสอบความผิดปกติเมื่อกลางปี 2557 และตั้งข้อสังเกตในข้อพิรุธไว้ 3 โรงเรียน จาก 6 โรงเรียน ที่ได้รับงบประมาณจากการแปรญัตติของ ส.ส.ประจำปี 2555
นายประวิทย์ หลักบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 กล่าวว่า การใช้จ่ายงบดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง โดย 6 โรงเรียนที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย โรงเรียนเบญจะมะมหาราช และศรีปทุมพิทยาคาร โดยโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ตั้งอยู่ใน จ.อุบลราชธานี ได้รับงบประมาณเฉลี่ยโรงละ 1.9-2.5 ล้านบาท ส่วนอีก 4 โรงตั้งอยู่ใน จ.อำนาจเจริญ ประกอบด้วย โรงเรียนหัวตะพานพิทยาคม 2.5 ล้านบาท อีก 3 โรงเรียนได้รับงบประมาณโรงเรียนละ 5 ล้านบาท คือ โรงเรียนอำนาจเจริญ โรงเรียนศรีเจริญศึกษา และโรงเรียนสร้างนกทาวิทยาคม โดย สตง.ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมทั้ง 3 โรงเรียน ใช้งบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลแบบเดียวกันมากกว่าโรงเรียนอื่น
เมื่อได้รับข้อท้วงติงจาก สตง.แล้ว สพม.เขต 29 จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงไปตรวจสอบร่างทีโออาร์ของโรงเรียนกับบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างเป็นไปตามแบบรายการที่แจ้งไว้จริงหรือไม่ และแผ่นยางปูสนามฟุตซอลชำรุดเสียหาย หรือเสื่อมสภาพจริงหรือไม่ เมื่อทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด สพม.จะดูว่า หากมีการทุจริตเกิดขึ้นใครจะต้องรับผิดชอบทางวินัย อาญา และทางแพ่งบ้าง ขณะนี้คณะกรรมการได้ตรวจสอบแล้ว และจะสรุปผลการสอบสวนภายใน 60 วัน เพื่อดำเนินการหากพบความผิดปกติตามที่ สตง.ตั้งข้อสังสัยไว้
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากวงการศึกษากล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณจากการแปรญัตติงบประมาณของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่น จึงมีการล็อกสเปก และกำหนดบริษัทผู้รับเหมามาจากส่วนกลาง ผู้บริหารโรงเรียนส่วนใหญ่ไม่ต้องการรับงบประมาณนี้มา เพราะทราบจะมีปัญหาตามมาภายหลัง
แต่มีผู้บริหารโรงเรียนบางรายที่สนิทกับนักการเมือง หรือถูกบีบบังคับ ทำให้ต้องยอมรับงบประมาณนี้มาก่อสร้าง รวมทั้งคณะกรรมการตรวจรับงานก็เป็นเพียงครูผู้สอนที่ไม่มีความรู้เรื่องการใช้วัสดุมาก่อสร้าง สุดท้ายเมื่อถูกตรวจสอบ ครูที่เป็นกรรมการตรวจรับงานก็จะต้องถูกสอบสวนและลงโทษ โดยไม่สามารถสาวไปถึงนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตที่เกิดขึ้นได้