ทหารบุกตรวจยึดที่ดินนายทุนสร้างรีสอร์ตรุกป่าสงวนภูเรือ

เลย - ทหารสนธิกำลังป่าไม้บุกตรวจค้นยึดที่ดินนายทุนรุกสร้างรีสอร์ตในป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกภูเหล็ก อำเภอภูเรือรวมกว่า 780 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ่ายวันนี้ (9 ต.ค.) พล.ต.เทศศนฤทธิ์ กสิบุตร รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดเลย พ.อ.ประจักษ์ ประเมศรี เสนาธิการจังหวัดทหารบกเลย ได้นำกำลังทหาร ตำรวจ ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจำนวน 200 นาย เข้าตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโคกภูเหล็กในพื้นที่บ้านม่วงไข่ หมู่ 8 ต.สานตม อ.ภูเรือ จ.เลย ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 64/2557 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2557 ร่วมดำเนินการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และทวงคืนผืนป่าตามนโยบายของ คสช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายโดยเด็ดขาด และจะได้นำมาตรการทางการปกครองตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2557 มาบังคับใช้อีกด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดที่ดินเนื้อที่ 380 ไร่ อยู่บนเทือกเขาสูงมองลงมาข้างล่างมองเห็นทิวทัศน์สวยงาม ซึ่งภายในพื้นที่มีการสร้างบ้านพักตากอากาศ มีสวนกาแฟ สวนกล้วยที่กำลังปลูกได้ไม่นาน มีนายสมพล เพชรดี อายุ 65 ปี นักธุรกิจตัวแทนบริษัทขายประกัน AIA อยู่ในตัวเมืองเลย รับเป็นเจ้าของ และได้นำเอาเอกสารการครอบครองที่ดินเป็นใบ ภบ.5 มายืนยันต่อเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการเสียภาษีมาตั้งแต่ปี 2545

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ได้นำแผนที่ป่าสงวนแห่งชาติมาให้ดูจึงต้องจำนนต่อหลักฐาน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเรือ ดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ และทำการปลูกสร้างในพื้นที่ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตต่อไป

ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้เดินทางไปตรวจสอบรีสอร์ตแห่งหนึ่งอยู่ติดถนนสายเลย-ภูเรือ กม.31 เขตบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 7 ตำบลสานตม อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย พบว่าไม่มีเจ้าของอยู่ แต่ได้มีการตัดต้นหญ้า ทำความสะอาดเพื่อรอรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวที่จะมาถึงนี้ ภายในมีห้องพักกว่า 10 หลัง ทราบว่าเจ้าของเป็นนักธุรกิจอยู่ต่างจังหวัด

สำหรับที่ดินแปลงนี้มีเนื้อที่ 400 ไร่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าโคกภูเหล็กส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ ส.ป.ก.4-01 เมื่อปี 2554 เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมและได้ทำการเพิกถอนเอกสารสิทธิแล้ว แต่ทางเจ้าของรีสอร์ตก็ยังไม่ยอมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไป ยังคงมีการแอบลักลอบเปิดกิจการรับนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาวทุกปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาเจ้าของที่แท้จริงมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

และทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการติดประกาศตรวจยึดพื้นที่ทั้งสองแห่ง และกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดเลยจะได้เสนอเรื่องให้กองทัพภาคที่ 2 และ กอ.รมน.ภาค 2 พร้อมทั้งติดตามเร่งรัดคดีอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายและมาตรการยึดคืนผืนป่าให้ประเทศไทยของ คสช.ต่อไป