ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจภาค 3 รวบเฒ่าวัย 60 พร้อมเมียสาวชาวลาวขนยาบ้าส่งภาคกลาง-อีสาน สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง เผยขนมากสุดกว่า 2 ล้านเม็ดไม่ถูกจับ แต่มาถูกจับได้ขณะ ตร.ล่อซื้อ 4,000 เม็ด สอบประวัติเคยติดคุกคดีขนเฮโรอีน 13 ปี เพิ่งพ้นโทษ 4 ปี มาก่อคดีขนยาบ้าและจนมุม ตร. ถูกรวบกลับเข้าไปนอนคุกอีก
เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (6 ต.ค.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.บุญจันทร์ นวลสาย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ รองผู้กำกับการ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายขนยาบ้ารายสำคัญนำเข้าจาก สปป.ลาว ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายประเสริฐ ทำดี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.กุดฉิม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และ นางจันทสอน แสงชัย อายุ 31 ปี แขวงคำม่วน สปป.ลาว ภรรยาสาว
พร้อมของกลาง ยาบ้าที่ได้จากการล่อซื้อ 4,000 เม็ด ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทใช้ล่อซื้อจำนวน 320,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง บัตรเครดิต สมุดบัญชีอีกจำนวนหนึ่ง และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีดำ 1 คัน ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการขนยาบ้า
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นายประเสริฐ มีพฤติการณ์นำเข้ายาบ้าจาก สปป.ลาว มาจำหน่ายให้ลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคอีสานและภาคกลาง จึงวางแผนล่อซื้อ โดยนัดหมายส่งยาบ้ากันที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ในเขต อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ถึงเวลานัดหมาย นายประเสริฐ พร้อมนางจันทสอน ภรรยาสาว ได้นำยาบ้ามาส่งตามนัด เจ้าหน้าที่จึงส่งมอบเงินและแสดงตัวเข้าจับกุม
ทั้งสองให้การรับสารภาพว่าจำหน่ายยาบ้าให้ลูกค้าในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานมานานกว่า 3 ปีแล้ว โดยรับยาบ้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว ทำเป็นขบวนการ ระหว่างการขนลำเลียงยาบ้ามีรถคุ้มกันและรถวิ่งตรวจสอบเส้นทางเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับของเจ้าหน้าที่ และเคยลำเลียงยาบ้ามาจำหน่ายหลายครั้ง โดยยาบ้าที่เคยขนจำนวนมากสุดกว่า 2 ล้านเม็ด รวม 1,000 มัด ได้ค่าจ้างมัดละ 20,000 บาท โดยตัวเองทำหน้าที่ในการขับรถขนยาบ้า
จากการตรวจสอบประวัตินายประเสริฐพบว่า เมื่อปี 2540 เคยต้องโทษมา 13 ปี 6 เดือน 2 วัน ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด (เฮโรอีน) เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือน ก.ค. 2553 จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบสวนขยายผลหาเครือข่าย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.จัตุรัส ดำเนินคดีต่อไป