เขื่อนปราณบุรีพร้อมรับมือฝนที่ตกเพิ่ม

ประจวบคีรีขันธ์ - เขื่อนปราณบุรี เขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดของประจวบคีรีขันธ์ พร้อมรับมือฝนที่จะตกเพิ่ม และยังสามารถรองรับน้ำเข้าอ่างได้อีกมาก

วันนี้ (5 ต.ค.) จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์สภาวะอากาศระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2557 ว่า ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ตามลำดับ ขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงเป็นช่วงๆ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งมีโอกาสจะเพิ่มกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้น และจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ คลื่นลมบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนมให้เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม อันเกิดจากฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 4-7 ตุลาคม 2557 ประกอบด้วย จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล

ทั้งนี้ ในส่วนของเขื่อนปราณบุรี อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขนาดความจุ 347 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันมีน้ำอยู่ในเขื่อน 46.59% ปริมาตรน้ำที่ใช้ได้เพื่อการอุปโภคบริโภคและเพื่อการเกษตร จำนวน 41.52% หรือคิดเป็น 144.06 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเขื่อนปราณบุรี ยังสามารถรองรับน้ำเข้าเขื่อนได้อีกมาก หากเกิดฝนตกหนักตามการคาดการณ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทั้งนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ส่วนสถานการณ์อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง และขนาดเล็กทั้งหมดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น ภาพรวมยังคงมีปริมาณน้ำสะสมในอ่างอยู่ในการเกณฑ์ต่ำ ยังสามารถรองรับน้ำเข้าอ่างได้อีกมาก ซึ่งหากมีฝนตกลงมาเติมน้ำในเขื่อน และอ่างเก็บน้ำต่างๆ จะส่งผลดีต่อภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์อย่างมาก