กาญจนบุรี - ตำรวจ และทหารเมืองกาญจนบุรี สนธิกำลังเข้าบุกจับ “นัส ปากแพรก” พ่อค้ายาบ้า ได้พร้อมยาบ้าของกลาง 2,050 เม็ด ยึดทรัพย์เกือบล้านบาท
เมื่อเวลา 09.20 น. วันนี้ (3 ต.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชินภัทร ตันศรีสกุล รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มนต์ชัย เพ็ญสูตร รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และ พ.ท.สถาพร เตี๊ยะเพชรดี ผบ.ร้อย.รส.ร.9 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ควบคุม นายมานัส หรือเล็ก พัดไสว หรือ “นัส ปากแพรก” อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/5 ม.8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ของ ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี มาแถลงข่าว
หลังจากจับกุมตัวได้พร้อมของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 2,050 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์แบบแค็บ สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 6346 กาญจนบุรี รถยนต์เก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับบริว สีเทา หมายเลขทะเบียน กท 5680 กาญจนบุรี รถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ 125 สีดำแดง หมายเลขทะเบียน ขธฉ 458 กาญจนบุรี และเงินสด จำนวน 18,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึด 913,000 บาท
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากที่ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พล.ต.ณัฐ อินทรเจริญ ผบ.พล.ร.9 ได้สั่งการให้ สภ.เมืองกาญจนบุรี และร้อย รส.ร.9 พัน 1 ปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่
ทางทหาร และตำรวจจึงได้ร่วมกันทำการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า นายมานัส พัดไสว หรือ “นัส ปากแพรก” มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาบ้าให้แก่กลุ่มพ่อค้ารายย่อย และวัยรุ่นในพื้นที่ตัวเมืองกาญจนบุรี จึงได้ขอหมายค้น มค.1078/2557 ลงวันที่ 1 ต.ค.2557 จากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อทำการตรวจค้นบ้านพักบ้านเลขที่ 24/5 ม.8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการเข้าตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 2,050 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัว นายมนัส มาทำการสอบสวน พร้อมกับใช้มาตรการยึดทรัพย์ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน ทั้งนี้ จากการสอบสวน นายมานัส ให้การรับสารภาพว่า ได้ซื้อยาบ้าทั้งหมดมาจากนายเอ ไม่ทราบชื่อนามสกุล โดยได้นัดหมายส่งยากันที่ปั๊มแก๊ส บริเวณถนนบายพาสเลี่ยงเมือง ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรี ในราคามัดละ 180,000 บาท จากนั้นได้นำยามาเก็บไว้ที่บ้าน และส่งขายให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่ใกล้เคียงในราคาเม็ดละ 150 บาท จนมาถูกตำรวจเข้าทำการตรวจค้นจับกุมได้ในที่สุด