บุรีรัมย์ - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์-ผู้ว่าฯ อุดรมีชัย กัมพูชา เห็นชอบขยายวันเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาช่องสายตะกู จากสัปดาห์ละ 3 วันเป็นเปิดทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนกระชับสัมพันธ์ และส่งเสริมท่องเที่ยวเส้นทางอารยธรรมขอม คาดเงินสะพัดสัปดาห์ละหลายล้าน
วันนี้ (2 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเจรจาหารือระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์กับจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เกี่ยวกับการผลักดันยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรงข้ามกับช่องจุ๊บโกกี ต.อำปึล จ.อุดรมีชัย กัมพูชา นั้น ล่าสุด นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และ พล.อ.ซอ ทาวี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ได้มีมติเห็นชอบร่วมกันให้ขยายวันเปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู
จากเดิมที่เปิดให้ทำการค้าขายระหว่างกันสัปดาห์ละ 3 วัน คือ วันศุกร์ เสาร์ และ อาทิตย์ เพิ่มเป็น 7 วัน หรือเปิดทุกวันตลอดทั้งสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ทั้งเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเส้นทางอารยธรรมโบราณระหว่างไทยกับกัมพูชาดังกล่าวอีกด้วย
นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ภายหลังที่มีการเปิดค้าขายที่ช่องสายตะกูอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมาสัปดาห์ละ 3 วัน ส่งผลให้มีเงินสะพัดจากการซื้อขายแลกสินค้าเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าเมื่อขยายวันเปิดครบทั้ง 7 วันแล้วจะมีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวหรือสัปดาห์ละหลายล้านบาท
ส่วนการผลักดันให้มีการยกระดับจากจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนเป็นด่านผ่านแดนถาวรนั้น ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังทำเรื่องเสนอรัฐบาลของทั้งสองประเทศ เพื่อพิจารณาอนุมัติเปิดเป็นด่านผ่านแดนถาวรเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ ที่ติดแนวชายแดนดังกล่าวต่อไป