ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ชนสนั่น! 4 คันรวดกลางสามแยก อ.โชคชัยโคราช ย่างสดครูสาวดับคาพวงมาลัย 1 ศพ บาดเจ็บอีก 5 ราย เป็นครู ตำรวจ สาหัส 2 ราย เผยกลับจากงานเลี้ยงเกษียณกำลังขับรถเข้าตัวเมืองขณะจอดติดไฟแดงถูกรถกระบะตำรวจพุ่งชนท้ายอย่างแรง จนเกิดอุบัติเหตุหมู่สยอง ด้าน ตร.ร้อยเวร ยังมึนขอเวลาสอบสวนหาสาเหตุอีกครั้ง
วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.เกรียงศักดิ์ ไชยสาร ร้อยเวร สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันหลายคันมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ที่บริเวณสามแยกไฟแดงเสาเดียว ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล นครราชสีมา (ฮุก 31) จุดโชคชัย เข้าช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโต้โยต้า รุ่นวีออส สีขาว ทะเบียน กค 7577 มหาสารคาม สภาพพังยับเยิน และไฟกำลังลุกท่วมรถทั้งคันอย่างรุนแรง ใกล้กันพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่น นาวาร่า สีบรอนซ์ ทะเบียน ผม 2878 นครราชสีมา ไฟกำลังลุกลามมาไหม้ ถัดไปพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น อลติส สีบรอนซ์ ทอง ทะเบียน กล 3976 นครราชสีมา และห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถตู้โดยสารสีขาว สายราชสีมา-บุรีรัมย์ เบอร์17 ทะเบียน 10-8580 นครราชสีมา
เจ้าหน้าที่ได้ประสานรถดับเพลิงเข้าทำการดับไฟที่กำลังโหมลุกไม้รถยนต์เก๋งสีขาว พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ภายในออกมาจากรถ แต่มีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ที่ติดอยู่ภายในรถยนต์เก๋งไม่สามารถช่วยเหลือได้เนื่องจากไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ พร้อมกันนี้ อาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 จุดโชคชัย ได้ช่วยกันทุบกระจกรถยนต์กระบะเพื่อนำผู้บาดเจ็บเป็นชายออกมาได้
เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถดับเพลิงได้แต่รถยนต์เก๋งสีขาว ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน และพบศพผู้เสียชีวิตคาพวงมาลัยรถอยู่ 1 ราย สภาพศพถูกไฟไหม้เกรียม ทราบชื่อคือ นางนัฏยา ภิเศก อายุ 29 ปี ครูประจำโรงเรียนบ้านปอพราน ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่.15 ต.แพง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งโต้โยต้า วีออส สีขาว กค 7577 มหาสารคาม
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ทราบชื่อคือ 1.น.ส.ละอองดาว นอกกลาง อายุ 27 ปี ลูกจ้างฝ่ายธุรกิจประจำโรงเรียนบ้านปอพราน อยู่บ้านเลขที่ 1165 หมู่ 13 ต.ธารละหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา 2.น.ส.นันทวัน ผงนอก ครูประจำโรงเรียนบ้านปอพราน อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 2 ต.โคกกระเบื้อง อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา อาการสาหัส
3.น.ส.จงลาวัลย์ ศิริสม ครูอัตราจ้างโรงเรียนหนองปรึก ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 19 ต.เขวาไร่ อ.โกสมพิสัย จ.มหาสารคาม 4.นายณฐดล จิตรภักดี ครูประจำ โรงเรียนบ้านปอพราน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 854 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทั้งหมดนั่งโดยสารมากับรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งคัน
และรายที่ 5 ร.ต.ต สฤษดิ์ธร สิทธิสุธี อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายธุรการ สภ.โชคชัย คนขับรถยนต์กระบะนิสสัน อยู่บ้านเลขที่ 9/3 หมู่ 4 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา อาการสาหัส เจ้าหน้าที่นำผู้บาดเจ็บอาการไม่สาหัสส่งรักษาโรงพยาบาลโชคชัย ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถตู้โดยสารซึ่งมี นายณัฐวุฒิ เติมงาน อายุ 42 ปี เป็นคนขับ บรรทุกมีผู้โดยสารเต็มคันรถจอดติดไฟแดงอยู่ ต่อท้ายด้วยรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ที่มี นางนัฏยา ผู้ตายเป็นคนขับ และข้างกันมีรถยนต์เก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์ทอง มี นายชัยเรือน กุลเกด ครูโรงเรียนท่าเยี่ยม อ.โชคชัย เป็นคนขับ ขณะรถจอดติดไฟแดงอยู่นั้น ได้มีรถยนต์กระบะนิสสัน นาวาร่า ที่มี ร.ต.ต.สฤษดิ์ธร เป็นคนขับได้ขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนท้ายรถเก๋งโตโยต้า วีออส อย่างจัง ก่อนพลิกคว่ำชนรถเก๋งโตโยต้า อัลติส ที่จอดอยู่ด้านข้าง เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุหมู่มีผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว โดยเฉพาะผู้บาดเจ็บแ ละเสียชีวิตเกือบทั้งหมดอยู่ในรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว
ขณะที่ นายณฐดล ผู้โดยสารในรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว กล่าวว่า ตนพร้อมเพื่อนครูรวม 5 คน ชาย 1 คน หญิง 4 คนได้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการครูใน อ.โชคชัย และกำลังจะขับรถเข้าไปทำธุระในตัวเมืองนครราชสีมา ขณะจอดรถติดไฟแดงอยู่ได้ยินเสียงถูกชนท้ายดังสนั่นทันใดนั้นรถได้ไถลไปชนรถตู้ที่จอดอยู่ด้านหน้า ก่อนเกิดไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็ว ตนพยายามช่วยเหลือเพื่อนครูที่อยู่ในรถออกมาได้ 3 คน แต่ไม่สามารถช่วยเหลือ นางนัฎยา คนขับออกมาได้ จึงทำให้ถูกไฟคลอกเสียชีวิตคารถดังกล่าว
ด้าน ร.ต.ท.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่ารถคันใดเป็นผู้ก่อเหตุ ต้องรอผลการสอบสวนที่ชัดเจนอีกครั้ง