xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ภาค 5 ตามรวบแก๊งทหารอุ้มเรียกค่าไถ่ เตรียมออกหมายจับอีกนับสิบ ชี้ หน.ใหญ่ยศ “จ่า”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงใหม่ - ตำรวจสืบสวนภาค 5 ตามรวบ 1 ในแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ หลังก่อเหตุอุ้มเหยื่อในเชียงรายรีดทรัพย์ ก่อนหนีไปกบดานกาฬสินธุ์ พร้อมเตรียมออกหมายจับคนในแก๊งเพิ่มอีกนับ 10 ราย เผยหัวหน้าใหญ่เป็นทหารยศ “จ่า”

วันนี้ (26 ก.ย.) พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งอุ้มเรียกค่าไถ่ คือ นายยศพัทธ์ อินบาล อายุ 49 ปี สมาชิกแก๊ง ถูกตำรวจสืบสวนภาค 5 จับกุมได้ขณะหลบหนีอยู่ใน จ.กาฬสินธุ์ โดยผู้ต้องหาเป็นหนึ่งในทีมอุ้มที่มีสมาชิกประมาณ 10 คน ส่วนใหญ่เป็นทหารในกรุงเทพฯ มี จ.ส.อ.สิงห์ ใจใหญ่ เป็นหัวหน้า รับงานอุ้มเรียกค่าไถ่ทั่วประเทศ ล่าสุด ได้ก่อเหตุปล้น รีดทรัพย์ใน จ.เชียงราย จนนำไปสู่การจับกุมตัวนายยศพัทธ์ ได้ แม้เบื้องต้นจะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐานหนาแน่น สามารถเอาผิดได้

คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ทีมคนร้ายได้แต่งกายด้วยชุดลายพรางทหาร บุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายใน จ.เชียงราย ใช้อาวุธปืนข่มขู่ รื้อค้นเอาทรัพย์สินในห้องได้เงินสดไปกว่า 3 หมื่นบาท แหวนทองคำ 2 สลึง โทรศัพท์มือถือ และจับกุมผู้เสียหายใส่กุญแจมือขึ้นรถยนต์ นำตัวไปกักขังไว้ในบ้านร้างหลังหนึ่งในตัวเมืองเชียงราย

จากนั้นได้ทำร้ายร่างกาย จับศีรษะกดน้ำ ขู่ฆ่า และให้ผู้เสียหายโทรศัพท์หาญาตินำเงิน 2 ล้านบาทมาแลกตัว โดยทางญาติได้ต่อรอง และโอนเงิน 210,000 บาท เข้าบัญชีของคนร้าย ก่อนที่คนร้ายจะใช้ผ้าปิดตานำผู้เสียหายนั่งรถมาปล่อยริมถนนใกล้สนามบินเก่าเชียงราย และยังขู่ให้ผู้เสียหายนำเงินที่เหลือมาจ่ายให้ครบ ไม่เช่นนั้นจะฆ่าทิ้งยกครัว

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหาย และญาติได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ จนกระทั่งนำไปสู่การติดตามจับกุมเจ้าของบัญชีได้ และให้การชัดทอดว่า มีทหารเป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังอยู่ระหว่างออกหมายจับ และให้ผู้บังคับบัญชาพาเข้ามอบตัว

ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า บางคนเคยมีประวัติการก่อเหตุกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว และจากการตรวจสอบบัญชีธนาคารที่คนร้ายให้โอนเงินเข้า พบว่า มีการโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวครั้งละจำนวนมาก และมีการเบิกถอนออกไปหลายครั้งแล้ว จึงเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง สำหรับผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อนั้น พบว่าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มักมีประวัติพัวพันหรือเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติด หรือธุรกิจผิดกฎหมาย ทำให้คนร้ายใช้เป็นช่องทางในการแอบอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าไปรีดไถ





กำลังโหลดความคิดเห็น