มุกดาหาร - ตชด.234 มุกดาหารตรวจยึดไม้ชิงชันเตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้าน 16 ท่อน มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ที่ริมฝั่งโขงบ้านบางทรายใหญ่ พร้อมรถยนต์กระบะที่ใช้บรรทุก 1 คัน ผู้ต้องหา 1 คน
วันนี้ (25 ก.ย.) ที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 มุกดาหาร พ.ต.ท.เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผู้บังคับกองร้อย ตชด.234 ได้แถลงข่าวการจับไม้ชิงชันจำนวน 16 ท่อน มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ก่อนถูกส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ติดหลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน นค-8714 นครราชสีมา ผู้ต้องหา 1 คน ทราบชื่อคือ นายเอกชัย พิมนนท์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 240 หมู่ 16 บ้านเหมืองบ่า ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร หลังจากถูกจับกุมได้ที่บริเวณหมู่บ้านบางทรายใหญ่
ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ติดตามจนกระทั่งคนขับรถกระบะได้จอดรถที่หมู่บ้านบางทรายใหญ่ ต.บางทรายใหญ่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ทั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีกลุ่มนายทุนลักลอบขนไม้ชิงชันจาก จ.ร้อยเอ็ด มุ่งไป ต.บางทรายใหญ่ อ.เมืองมุกดาหาร ตามเส้นทางบ้านโพนทราย-บ้านโคกสูง โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ติดหลังคาแครี่บอย หมายทะเบียน นค-8714 นครราชสีมา จึงได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ภาสกร หนุดตะแสง ผู้บังคับหมวดร้อย ตชด.234, ร.ต.ท.ชัยวัฒน์ ศรีค้อ ผู้บังคับหมวดร้อย ตชด.234 ประสานกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.4 (คำป่าหลาย) เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำมุกดาหาร นายพนมเทียม เผ่าหอม เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองมุกดาหาร ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2109 วางแผนจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมดังกล่าวสกัดกั้นตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ติดหลังคาแครี่บอย หมายทะเบียน นค 8714 นครราชสีมา ตรงตามที่สายรายงานวิ่งมา จึงให้สัญญาณหยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่คนขับรถคันดังกล่าวได้เร่งความเร็วขับหลบหนีไปตามถนนสายมุกดาหาร-นครพนม และเลี้ยวไปตามถนนในหมู่บ้าน บ้านบางทรายใหญ่ โดยมีเจ้าหน้าที่ขับรถไล่ติดตามจนสามารถจับกุมได้
ตรวจสอบภายในรถยนต์ได้บรรทุกไม้ชิงชันจำนวน 16 ท่อน/เหลี่ยม คิดมูลค่า 2 แสนบาท ตรวจสอบไม่พบร่องรอยดวงตราอนุญาตของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด คาดว่าไม้ดังกล่าวเพื่อเตรียมส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์และไม้ชิงชัน พร้อมผู้ต้องหา 1 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป