ซีพีเอฟขานรับนโยบาย คสช.คืนกำไรให้ความสุขชาวกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์-ตัวแทนบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ (ซีพีเอฟ) สนองนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี จัดกิจกรรมคืนกำไรให้ความสุขลูกค้า นำปลานิลซีพีจำหน่ายในราคาถูก เพียงกิโลกรัมละ 50 บาท ชาวบ้านฮือฮาแย่งซื้อเนืองแน่น

วันนี้( 24 ก.ย.)ที่ร้านค้าชุมชนบ้านตูม ม.4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายไพศาล เกริกขจาย ผจก.ทั่วไป บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์อาหารสัตว์ (ซีพีเอฟ) พร้อมคณะ ได้จัดกิจกรรมคืนกำไรให้ความสุขลูกค้า โดยนำปลานิลซีพีจำหน่ายราคาถูก เพียงกิโลกรัมละ 50 บาท สวนทางราคาจำหน่ายตามตลาด ที่ราคากิโลกรัมละ 85 บาท

นายไพศาลกล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ค่าครองชีพสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รายได้น้อย ซีพีเอฟตระหนักในความเดือดร้อนที่ชาวบ้านและลูกค้าประสบ จึงได้สนองนโยบาย คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเร่งคืนความสุขให้กับประชาชน ด้วยการจัดโครงการซีพีเอฟคืนกำไรให้ความสุขชาวบ้าน

โดยนำปลานิลซีพี ที่เลี้ยงในกระชังเขื่อนลำปาว มาจำหน่ายราคาประหยัด เพียง ก.ก.ละ 50 บาท สวนทางราคาจำหน่ายตามท้องตลาด ที่ราคากิโลกรัมละ 85 บาท ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดียิ่ง แห่ซื้อกันอย่างเนืองแน่นคนละ 2-5 ก.ก. เพียง 1 ชั่วโมง จำหน่ายได้ถึง 1 ตัน

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้าน ลูกค้า ยังเรียกร้องให้ ซีพีเอฟ จัดโครงการคืนกำไรให้ความสุขลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเสนอให้มีโครงการลดราคาพันธุ์ลูกกุ้งก้ามกรามและพันธุ์ปลา รวมทั้งราคาอาหารสัตว์ ให้ถูกลงอีกด้วย เพราะปัจจุบันราคาพันธุ์ลูกกุ้งฯอยู่ที่ตัวละ 29 สตางค์ พันธุ์ลูกปลานิล-ปลาทับทิม ตัวละ 50 สตางค์ อาหารกุ้งเล็ก ก.ก.ละ 14 บาท และอาหารกุ้งโต ก.ก.ละ 38 บาท

ขณะที่จำหน่ายราคาจำหน่ายที่ปากบ่อ ก.ก.ละ 260 บาท แต่กว่าจะมีอายุพอจับจำหน่ายต้องใช้เวลาเลี้ยงนานถึง 5-6 เดือน ทำให้สิ้นเปลืองต้นทุนการผลิต และเสี่ยงต่อการขาดทุนเป็นอย่างมาก