กองพิสูจน์หลักฐานขึ้นตรวจเรือสินค้าหาร่องรอยการถูกโจรกรรม

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองพิสูจน์หลักฐาน-ตร.ศรีราชา ขึ้นตรวจสอบบนเรือสินค้าสัญชาติปานามา หลังถูกตัดสมอเรือ และลากเรือออกไป เพื่อหาร่องรอยการถูกโจรกรรม เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย

จากกรณีเรือสินค้าชื่อ MAGELLANIC สัญชาติปานามา ซึ่งนำมาซ่อมที่อู่ต่อเรือยูนิไทย ชิปยาร์ด แอนด์ เอนจิเนียร์ริ่ง แหลมฉบัง แต่มีปัญหาเรื่องราคาค่าซ่อม จึงมีการฟ้องร้องดำเนินคดี ศาลมีคำสั่งอายัด หรือควบคุมเรือดังกล่าวไว้ เนื่องจากกระทำผิดทางด้านทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ตั้งแต่ปี 2554 โดยอยู่ในความดูแลของกรมเจ้าท่า ได้นำมาจอดทอดสมออยู่บริเวณห่างจากเกาะสีชัง ประมาณ 1 ไมล์ทะเล

แต่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เรือมีการเคลื่อนย้ายออกจากจุดที่ทอดสมอไว้ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุที่ถูกเคลื่อนย้ายไป ทางเจ้าท่าจึงประสานกำลังจากกองทัพเรือ ตำรวจน้ำศรีราชา ติดตามเรือดังกล่าวจนมาพบอีกครั้งบริเวณเกาะไผ่ ห่างจากจุดเดิมประมาณ 40 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 80 กิโลเมตร จึงได้นำกลับมาจอดไว้ที่อู่ต่อเรือยูนิไทฯ แหลมฉบัง

ล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.) ร.ต.ท.ธนากร ธรรมเมธา ร้อยเวร สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวถึงกรณีเรือสินค้า MAGELLANIC เดิมเจ้าท่าฯ ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.แหลมฉบัง แต่เมื่อตรวจสอบพิกัดแล้ว เรือลำดังกล่าวจอดทอดสมออยู่ในเขตความรับผิดชอบของ สภ.ศรีราชา ดังนั้น สภ.ศรีราชา จึงเข้ามารับผิดชอบคดีดังกล่าว

และในวันนี้มีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจน้ำศรีราชา และตำรวจศรีราชา ได้ขึ้นไปตรวจหาร่องรอยของคนร้ายที่โจรกรรมเรือดังกล่าวไป บริเวณอู่ต่อเรือยูนิไทฯ โดยการขึ้นไปตรวจสอบบนเรือครั้งนี้พบรอยนิ้วมือบนสะพานเดินเรือ จึงเก็บหลักฐานดังกล่าวไว้ นอกจากนั้น ยังพบถังแก๊สที่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการตัดโซ่สมอเรือทิ้ง และวิทยุสื่อสารที่อยู่บนเรือ เพื่อฟังการติดตามของเจ้าหน้าที่

ร.ต.ท.ธนากร กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานอะไรมาก โดยจะต้องขึ้นตรวจสอบบนเรืออีกหลายครั้งเพื่อหาหลักฐานให้มากกว่านี้ โดยเบื้องต้น ต้องเรียกเจ้าของเรือลำดังกล่าวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ เนื่องจากทราบว่า ยังติดค้างค่าซ่อมเรืออยู่หลายล้านบาท จนมีการฟ้องร้องกัน หรือเป็นกลุ่มคนร้ายที่ต้องการขโมยเรือนำไปขายยังต่างประเทศ เนื่องจากเส้นทางที่ลากเรือไปนั้น เป็นเส้นทางที่จะนำเรือออกไปยังต่างประเทศ

ร.ต.ท.ธนากร กล่าวว่า สำหรับคดีนี้จะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง เนื่องจากจะต้องสอบปากคำจากหลายๆ ฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และต้องขอความร่วมมือจากทหารเรือ ตำรวจน้ำศรีราชา และกรมเจ้าท่า เพื่อติดตามเรื่องนี้ เพื่อได้ผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป