พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา ตามจับคนร้ายบุกชิงทรัพย์ร้านโชวห่วยได้แล้ว หลังลงมือปฏิบัติการกลางวันแสกๆ พบเป็นอดีตลูกจ้างร้านที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ หลังจับได้ว่าขโมยของในร้าน แต่เจ้านายเก่าไม่เอาความเพราะเห็นลูกเล็ก ยอมรับต้องการเงินไปใช้ในครอบครัว
วันนี้ (23 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อแขนยาวลายพราง สวมกางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกกันน็อกสีดำแบบเต็มใบ ก่อเหตุบุกเข้าไปภายในร้านโชวห่วย ภายในสวนอุตสาหกรรมบ้านแพน ต.สามกอ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กระโดดขึ้นไปบนโต๊ะคิดเงินเปิดลิ้นชักเก็บเงิน หยิบเอาเงินสด จำนวน 6,000 บาท ของ น.ส.สีนวล กัณทะวงษ์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านไปต่อหน้าต่อตากลางวันแสกๆ แล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้แล้ว คือ นายเผด็จ หรือเอก แจ่มทิม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 754 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ
ต่อมา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.วิโรจน์ข้าวบ่อ ผกก.สภ.เสนา พ.ต.ท.ชนิทร์ คงดิษฐ์ สว.สส.สภ.เสนา ได้ควบคุมตัว นายเผด็จ หรือเอก แจ่มทิม ผู้ต้องหารายนี้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ของผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พันการจับกุม
พร้อมด้วยของกลางเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กม 5036 พระนครศรีอยุธยา เริ่มจากจอดรถจักรยานยนต์แล้วเดินเข้ามากระโดดข้ามโต๊ะที่เก็บเงิน หยิบเงินสดที่เหลืออยู่ในลิ้นชักประมาณ 6,000 บาท หลบหนีไป
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แกะรอยผู้ต้องหาจากลักษณะท่าทางที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด จนสืบทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายเผด็จ และไปติดตามตัวที่บ้านพักใน ต.บ้านหลวง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน มีลักษณะตรงกับที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ
ผู้ต้องหาให้การรับสาราภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุ เพราะต้องการเงินไปใช้ในครอบครัว ส่วนเงินสดที่ได้ไปนำใช้หมดแล้ว สำหรับผู้ต้องหาเคยเป็นพนักงานภายในร้านที่เกิดเหตุ ทางเจ้าของร้านได้ให้ออกจากร้านประมาณ 1 ปี เพราะขโมยสินค้าในร้านนำไปขาย ทางเจ้าของร้านไม่ได้ติดใจเอาความเนื่องจากสงสารที่ยังมีลูกเล็ก กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป