ศูนย์ข่าวศรีราชา - ครูสาวโรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ เข้าแจ้งความ ถูก “ผอ.โรงเรียน” กลั่นแกล้ง และข่มขู่ หวั่นได้รับอันตราย
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส.สุจีนันท์ รุจบุญนาศักดิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เทียนชัย เนื่องจำนงค์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ นายวิชาญ ทองดา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ หลังได้ว่าจ้างเด็กนักเรียนในโรงเรียนเขียนข้อความหยาบคาย และข้อความข่มขู่ตน นอกจากนี้ ยังให้เด็กเข้าทำลายทรัพย์สินภายในห้องเรียนที่ตนสอนอยู่ประจำ พร้อมกับทำการล้มโต๊ะเรียนหนังสือ ตู้หนังสือ และฉีกกระดาษเกลื่อนห้องของตนด้วย
การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง แม้ในครั้งนี้เพียงแค่ว่าจ้างให้เด็กนักเรียนอายุเพียง 7-8 ขวบกระทำการเท่านั้น หากในอนาคตเกิดความไม่พอใจตน อาจจะมีการว่าจ้างบุคคลภายนอกมาทำร้ายตนก็อาจเป็นได้ ดังนั้น ตนจึงต้องมาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันหากเกิดอะไรขึ้นกับตน
น.ส.สุจีนันท์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้อำนวยการได้มีการกลั่นแกล้งตน และครูภายในโรงเรียนมาโดยตลอด ซึ่งมีการร้องเรียนถึงหน่วยงานระดับสูงมาแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่ดีขึ้น แต่ในครั้งนี้มีการว่าจ้างให้เด็กนักเรียนเขียนข้อความ และข่มขู่ พร้อมทำลายทรัพย์สินภายในห้องเรียน จึงต้องเข้ามาแจ้งความ
นอกจากนั้น ยังมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนพาเด็กนักเรียนที่ถูกผู้อำนวยการว่าจ้าง และให้เขียนคำไม่สุภาพ ดูหมิ่นมาลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย เนื่องจากเห็นว่าการกระดังกล่าวไม่เหมาะสมต่อผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์
น.ส.สุจีนันท์ กล่าวว่า ในความเป็นจริง ผู้บริหารระดับสูงควรสร้างความกลมเกลียว และให้ความสนใจต่อเด็กนักเรียนให้มีความรู้ความสามารถเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต แต่สำหรับโรงเรียนแห่งนี้สร้างความแตกแยก โดยหากครูคนใดไม่ใช่ครูฝ่ายผู้อำนวยการก็จะถูกกลั่นแกลงต่างๆ นานา เช่น ครูที่สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ก็สั่งให้ย้ายไปสอนในระดับชั้นประถม แล้วนำครูที่ไม่มีความรู้ความสามารถในวิชานั้นมาสอนแทน
ที่ผ่านมา มีครูอาจารย์ที่สอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ ทำเรื่องขอย้ายไปหลายคนแล้ว เนื่องจากทนเห็นพฤติกรรมของผู้อำนวยการ และพรรคพวกไม่ไหว แม้จะร้องเรียนไปถึงหน่วยงานระดับสูงให้ลงมาตรวจสอบ แต่ก็เงียบหายไป และไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ครู อาจารย์ของโรงเรียนนี้เกิดความท้อแท้ และหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียน ดังนั้น จึงต้องการเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้ามาดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ยุติโดยเร็ว
วันนี้ (22 ก.ย.) ที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส.สุจีนันท์ รุจบุญนาศักดิ์ ครูโรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.เทียนชัย เนื่องจำนงค์ สารวัตรเวร สภ.ศรีราชา เพื่อให้ดำเนินคดีต่อ นายวิชาญ ทองดา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ หลังได้ว่าจ้างเด็กนักเรียนในโรงเรียนเขียนข้อความหยาบคาย และข้อความข่มขู่ตน นอกจากนี้ ยังให้เด็กเข้าทำลายทรัพย์สินภายในห้องเรียนที่ตนสอนอยู่ประจำ พร้อมกับทำการล้มโต๊ะเรียนหนังสือ ตู้หนังสือ และฉีกกระดาษเกลื่อนห้องของตนด้วย
การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่ถูกต้อง แม้ในครั้งนี้เพียงแค่ว่าจ้างให้เด็กนักเรียนอายุเพียง 7-8 ขวบกระทำการเท่านั้น หากในอนาคตเกิดความไม่พอใจตน อาจจะมีการว่าจ้างบุคคลภายนอกมาทำร้ายตนก็อาจเป็นได้ ดังนั้น ตนจึงต้องมาแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐานเพื่อป้องกันหากเกิดอะไรขึ้นกับตน
น.ส.สุจีนันท์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้อำนวยการได้มีการกลั่นแกล้งตน และครูภายในโรงเรียนมาโดยตลอด ซึ่งมีการร้องเรียนถึงหน่วยงานระดับสูงมาแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่ดีขึ้น แต่ในครั้งนี้มีการว่าจ้างให้เด็กนักเรียนเขียนข้อความ และข่มขู่ พร้อมทำลายทรัพย์สินภายในห้องเรียน จึงต้องเข้ามาแจ้งความ
นอกจากนั้น ยังมีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนพาเด็กนักเรียนที่ถูกผู้อำนวยการว่าจ้าง และให้เขียนคำไม่สุภาพ ดูหมิ่นมาลงบันทึกประจำวันไว้ด้วย เนื่องจากเห็นว่าการกระดังกล่าวไม่เหมาะสมต่อผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์
น.ส.สุจีนันท์ กล่าวว่า ในความเป็นจริง ผู้บริหารระดับสูงควรสร้างความกลมเกลียว และให้ความสนใจต่อเด็กนักเรียนให้มีความรู้ความสามารถเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคต แต่สำหรับโรงเรียนแห่งนี้สร้างความแตกแยก โดยหากครูคนใดไม่ใช่ครูฝ่ายผู้อำนวยการก็จะถูกกลั่นแกลงต่างๆ นานา เช่น ครูที่สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ก็สั่งให้ย้ายไปสอนในระดับชั้นประถม แล้วนำครูที่ไม่มีความรู้ความสามารถในวิชานั้นมาสอนแทน
ที่ผ่านมา มีครูอาจารย์ที่สอนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านบางพระ ทำเรื่องขอย้ายไปหลายคนแล้ว เนื่องจากทนเห็นพฤติกรรมของผู้อำนวยการ และพรรคพวกไม่ไหว แม้จะร้องเรียนไปถึงหน่วยงานระดับสูงให้ลงมาตรวจสอบ แต่ก็เงียบหายไป และไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำให้ครู อาจารย์ของโรงเรียนนี้เกิดความท้อแท้ และหวั่นว่าจะส่งผลกระทบต่อเด็กนักเรียน ดังนั้น จึงต้องการเรียกร้องให้ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้ามาดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ยุติโดยเร็ว
