เจ๊ร้านข้าวต้มอยุธยาแจ้งจับแม่ค้าเนื้ออ่างทองหลังมีปากเสียงในเฟซบุ๊ก ยกพวกรุมตี เผาบ้าน

พระนครศรีอยุธยา - เจ้าของร้านข้าวต้มปลาอยุธยา เข้าแจ้งความ และให้ข้อมูลต่อ “ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา” หลังทะเลาะกับแม่ค้าขายเนื้อในตลาดอ่างทองที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก จนถูกยกพวกตามตีหัวถึงบ้าน แถมถูกข่มขู่ให้ไปแจ้งความ และเฟซบุ๊กจะมาอุ้มคนในบ้านไปทำร้าย และถูกบุคคลไม่ทราบฝ่ายบุกปาระเบิดน้ำมันเผาร้านจนได้รับความเสียหาย

วันนี้ (21 ก.ย.) ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา น.ส.เพ็ญพักตร์ มนัสสมิทธิธร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านข้าวต้มปลา เลขที่ 19/6 หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมครอบครัว ได้เข้าให้ข้อมูลต่อ พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หลังจากได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ถูกแม่ค้าขายเนื้อในตลาด จ.อ่างทอง ที่รู้จักกับลูกสาวตนทางเฟชบุ๊ก แล้วทะเลาะกันจนมีเรื่องทำร้ายร่างกายกัน และถูกทางแม่ค้าขายเนื้อในตลาด จ.อ่างทอง ข่มขู่ และได้แจ้งความไว้ต่อ สภ.พระนครศรีอยุธยา ไว้แล้วก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา วันนี้ (21 ก.ย.) ก็ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ปาระเบิดขวดน้ำมันเข้ามาในร้านข้ามต้มปลาของตน เลขที่ 19/6 หมู่ที่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จนเกิดเพลิงลุกไหม้ได้รับความเสียหายกว่า 200,000 บาท

โดย น.ส.เพ็ญพักตร์ เชื่อว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากที่ลูกสาวของตนได้ไปมีเรื่องทะเลาะกันในเฟชบุ๊กกับแม่ค้าขายเนื้อรายหนึ่งในตลาด จ.อ่างทอง จนแม่ค้าขายเนื้อคนดังกล่าวได้พาคนมาทำร้ายลูกสาว และตนจนได้รับบาดเจ็บ จนกระทั่งมาลอบวางเพลิงซ้ำอีกเมื่อคืนที่ผ่านมา

“ก่อนหน้านี้ น.ส.ดลฤทัย มนัสสมิทธิธร อายุ 21 ลูกสาวได้ไปทะเลาะกับแม่ค้าขายเนื้อรายหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อว่า ซ่าร่า อยู่ในตลาดจังหวัดอ่างทอง ผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วลุกลามจนเกิดการทะเลาะกันขึ้น จนกระทั่งมีการพบกัน และทะเลาะวิวาทกัน และได้เข้าไปห้ามปรามจนกระทั่งทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายกัน

ต่อมา เมื่อวันที่ 17 ก.ย.เวลาประมาณ 20.30 น.ที่ผ่านมา หญิงสาวคนดังกล่าวได้พาพรรคพวกมาเป็นชายและหญิงรวม 4 คน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกาย ใช้ขวดเบียร์ตีที่ศีรษะจนตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่หลายวัน

นอกจากนี้ แม่ค้าคนดังกล่าวยังได้ตะโกนบอกอีกว่า “ให้ไปแจ้งความเลยตำรวจอยุธยา ตำรวจอ่างทองพวกกู ทำอะไรกูไม่ได้” และยังมีการท้าทายอีกว่า จะกลับมาเอาคืนอีก หลังเกิดเหตุตนได้แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ไว้แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดสอบปากคำในวันที่ 25 ก.ย.นี้”

น.ส.เพ็ญพักตร์ กล่าวต่อว่า หลังออกจากโรงพยาบาลมาพักรักษาตัวที่บ้าน จนกระทั่งเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ขณะนอนหลับพักผ่อนอยู่บนบ้าน ได้ยินเสียงขวดปาเข้ามาในบ้านแล้วแตก จากนั้นเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงแจ้งรถดับเพลิงมาควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ รู้สึกตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เพราะในบ้านมีแต่ผู้หญิง และเด็กเล็กอยู่ในบ้านรวม 4 คน ไม่คิดว่าจะกล้ามาทำกันขนาดนี้ นอกจากนี้ ยังมีการข่มขู่ผ่านเฟซบุ๊กอีกว่า จะเข้ามาอุ้มคนในบ้านไปทำร้ายอีกหากเรื่องไปจบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับขี่รถจักรยานยนต์ปาระเบิดขวดน้ำมันเข้าไปในร้านข้าวต้มปลา เลขที่ 19/6 หมู่ 3 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ของ น.ส.เพ็ญพักตร์ มนัสสมิทธิธร เมื่อช่วงเวลาประมาณเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันนี้ (21 ก.ย.)

ต่อมา ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ร.ต.ท.ก้องภพ เนตรเจริญ พนักงานสอบ สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคารทาวน์เฮาส์ ด้านหน้าเปิดเป็นร้านขายข้าวต้มปลาทำด้วยฝาบ้านทรงไทย อุปกรณ์ภายในร้านข้าวของเครื่องใช้ได้รับความเสียหาย โชคดีที่ถังแก๊สไม่เกิดระเบิด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อที่จะติดตามแม่ค้าเนื้อในตลาด จ.อ่างทอง ตามที่ น.ส.เพ็ญพักตร์ เจ้าของร้านข้าวต้มระบุ มาสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ลอบวางเพลิงร้านข้าวต้มของ น.ส.เพ็ญพักตร์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป