เชียงราย - ทางการไทย-พม่า เปิดให้ผู้คน ยานพาหนะข้ามแดนผ่านสะพานข้ามแม่น้ำสายตามปกติแล้ว ท่ามกลางคราบโคลนหลังน้ำลด แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดท่าล้อ ฝั่งท่าขี้เหล็ก ยังเปิดร้านกันไม่ได้
วันนี้ (19 ก.ย.) นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย ได้เดินทางไปตรวจสอบความเสียหายบริเวณสะพานข้ามลำน้ำสาย และตลาดข้างเคียง หลังแม่น้ำสายล้นทะลักเข้าท่วมตั้งแต่เช้ามืดวานนี้ (18 ก.ย.) พบว่า หลังระดับน้ำสายลดลงจนเกือบเป็นปกติ ปัญหาที่เกิดขณะนี้ก็คือ การทำความสะอาดบ้านเรือน ร้านค้าที่มีโคลนตม และวัชพืชอยู่เต็ม รวมทั้งเกิดขึ้นซ้ำซากหลายครั้งติดต่อกัน และสถานการณ์ในปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ เพราะอาจมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีก ทำให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ฯลฯ ยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนตลอดทั้งวัน
ด้านการค้าชายแดน ล่าสุด ขณะนี้พบว่าเริ่มฟื้นตัวเฉพาะตลาดที่อยู่ห่างไกลจากลำน้ำสาย เช่น ตลาดดอยเวา ตลาดนายบุญยืน ตลาดอินโดจีน ฯลฯ แต่ตลาดท่าล้อในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ยังไม่สามารถเปิดร้านค้ากันได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบหนัก เพราะอยู่ในที่ลุ่ม จึงถูกน้ำท่วมขังเต็มพื้นที่ตั้งแต่น้ำท่วมครั้งแรก
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งไทย และพม่า ก็เปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และยานพาหนะสามารถเดินทางผ่านเข้าออกชายแดนได้ตั้งแต่เวลา 06.30-18.30 น.ตามปกติแล้ว
นายสมชัย กล่าวถึงแนวทางป้องกันผลกระทบจากน้ำท่วมในอนาคตว่า หลังหารือกับทางผู้ว่าการจังหวัดท่าขี้เหล็ก และผู้บังคับการยุทธศาสตร์ท่าขี้เหล็ก ของพม่า แล้วปรากฏว่า ทางท้องถิ่นของพม่า เห็นชอบด้วยที่จะร่วมกันติดตั้งเครื่องมือเตือนภัยเอาไว้บริเวณเหนือลำน้ำสายขึ้นไป เพราะลำน้ำสายไหลออกมาจากเขตเมืองสาด-ท่าขี้เหล็ก ก่อนจะมาเป็นพรมแดน ซึ่งแคบ และตื้นเขิน
ขณะที่ทางสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็จะให้เครื่องมือดังกล่าวมาให้อำเภอ จำนวน 2 เครื่อง เบื้องต้นมีการหารือกันว่าจะนำไปติดตั้งห่างจากตัวเมืองท่าขี้เหล็ก และแม่สายขึ้นไปทางเหนือน้ำประมาณ 20 กิโลเมตร ส่วนอีกเครื่องติดตั้งห่างออกไปอีก 25 กิโลเมตร
ซึ่งเครื่องดังกล่าวจะทำการวัดระดับน้ำว่า เพิ่มขึ้น หรือลดลงมากน้อยเพียงใด ก่อนจะถึงตัวเมืองแม่สาย และท่าขี้เหล็ก จากนั้นจะรายงานผลมายังเจ้าหน้าที่ เพื่อสามารถแจ้งเตือนภัยได้อย่างทันท่วงที
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทาง สวทช.ต้องนำเครื่องมือนี้ไปหารือกับทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นพม่า เพื่อให้ข้อมูลว่า เป็นเครื่องมือตรวจวัดระดับน้ำ ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่น่ากังวลใดๆ โดยอยู่ระหว่างรอการพบปะกันระหว่าง 2 ฝ่ายอยู่
“คาดว่าเมื่อมีเครื่องมือนี้จะช่วยลดปัญหาความเสียหายได้ ส่วนการขุดลอก และอื่นๆ คงจะต้องมีการหารือกันผ่านคณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซีต่อไป”
