xs
xsm
sm
md
lg

จับได้แล้ว “ไอ้โหด” ฆ่าเมียท้อง 8 เดือนถ่วงน้ำ อ้างเหตุโมโหสั่ง “ตำน้ำพริก” ให้กินไม่ทันใจ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว  นายภัทรพล หรือแมน จิตรธรรม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหา มาแถลงข่าว
กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี คุมตัว “ไอ้แมน” สามีฆาตกรโหดฆ่าภรรยาตัวเองตายทั้งกลมขณะท้อง 8 เดือน ก่อนนำศพไปถ่วงแม่น้ำแม่กลอง มาแถลงข่าวหลังจนมุมตำรวจขณะหลบหนีไปอยู่กับญาติที่พังงา สารภาพเหตุโมโหสั่งให้ภรรยาตำน้ำพริกให้กิน แต่ไม่ทันใจ จึงใช้มือบีบคอจนตาย ญาติสุดทนหลังแถลงกรูประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่กันจ้าละหวั่น



ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวตั้งท้องประมาณ 8 เดือน ถูกฆ่าใช้เชือกมัดมือไขว้หลัง เท้าทั้ง 2 ข้างมัดติดกัน โดยมีอิฐบล็อกผูกถ่วงเอาไว้ สภาพศพลอยอืดติดกับผักตบชวากลางแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี การแต่งกายท่อนล่างนุ่งกางเกงในสีส้มตัวเดียว ใส่เสื้อคลุมท้องสไตล์แฟชั่นวัยรุ่นชาวเกาหลี พบศพเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย.57

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี สามารถสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า ผู้ตาย คือ น.ส.กัลยา หรือตูน ประทุมเมือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/9 หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส่วนผู้ต้องหาคือ นายภัทรพล หรือแมน จิตรธรรม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสามีของ น.ส.กัลยา

ล่าสุด เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (17 ก.ย.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.มานิตย์ จำลองรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ชูยศ ทองอยู่ ผกก.สภ.ท่าม่วง พ.ต.ท.ธนนท์ โตงิ้ว รอง ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.ท.ไวโรจน์ แน่นพิมาย สว.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร.ต.อ.ศุภกิจ มหาโชคธรณี รอง สว.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี หน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภ.จว.กาญจนบุรี

ได้คุมตัว นายภัทรพล หรือแมน จิตรธรรม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหาที่ใช้มือบีบคอฆ่า น.ส.กัลยา หรือตูน ประทุมเมือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/9 หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ภรรยาสาวของตนเอง ขณะตั้งท้องประมาณ 8 เดือน จากนั้นได้นำศพไปทิ้งลงในแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ 1 ต.เขาน้อย อ.ท่าม่วง ด้วยการใช้เชือกมัดมือไขว้หลัง เท้าทั้งสองข้างถูกมัดติดกัน โดยมีอิฐบล็อกผูกถ่วงน้ำเอาไว้ เพื่ออำพรางคดี หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.57 ครั้งแรกที่พบศพเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นหญิงสาวชาวต่างชาติ เนื่องจากดูการแต่งกายเสื้อคลุมท้องมีสไตล์แฟชั่นวัยรุ่นชาวเกาหลี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดต่อสอบถามไปตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่า มีหญิงสาวตั้งท้องมาฝากครรภ์แล้วไม่ได้มาคลอดลูกมีบ้างหรือไม่

จากการตรวจสอบค่อนข้างยาก เนื่องจากตามโรงพยาบาลต่างๆ มีคนมาฝากครรภ์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปตามโรงพักต่างๆ ก็ไม่มีการแจ้งความคนหายที่มีลักษณะตั้งท้องดังกล่าวแม้แต่แห่งเดียว จึงทำให้การสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใคร มาจากไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเราได้พยายามสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่องนานหลายเดือน

จนกระทั้งวันที่ 12 ส.ค.57 ที่ผ่านมา คดีเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี เมื่อ น.ส.จิรัชยา หรือติ๊ก ประทุมเมือง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310 หมู่ 2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมเพื่อนสนิทได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงส์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการหายตัวไปของพี่สาว

โดย น.ส.จิรัชยา หรือติ๊ก ให้ข้อมูลว่า พี่สาวได้กลับบ้านเมื่อวันที่ 12 ส.ค.56 เพื่อมากราบเท้าแม่ทุกปี หลังจากนั้น ก็ไม่พบกันอีกเลย แต่ได้ติดต่อกันทางไลน์ และติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กที่มองเห็นกัน มีอยู่ครั้งหนึ่งสังเกตเห็นพี่สาวลักษณะคล้ายกำลังตั้งท้อง และมาทราบภายหลังว่า พี่สาวมีแฟนชื่อแมน ไม่ทราบชื่อ และนามสกุล เป็นคน ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก แค็บ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และทราบว่า พี่สาวกับแฟนไปเปิดร้านอาหารที่ย่านแจ้งวัฒนะ เท่านั้น และพี่สาวไม่เคยกลับบ้านอีกเลย และทุกคนในครอบครัวเข้าใจว่าพี่สาวยังเปิดร้านอาหารอยู่กับแฟนที่ กทม.เท่านั้น

จนกระทั่งวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา พี่สาวจะต้องกลับมากราบเท้าแม่ แต่ประกฏว่า พี่สาวไม่กลับมา และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนจึงเกิดเอะใจขึ้นมาเพราะก่อนหน้านี้ได้เห็นข่าวทางหน้าหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ว่าเจ้าหน้าที่พบศพหญิงสาวตั้งครรภ์ถูกฆ่าถ่วงน้ำ และการแต่งกายคล้ายกับพี่สาวที่หายตัวไปเป็นอย่างมาก จึงได้ไปบอกให้พ่อกับแม่ ไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง เพื่อที่จะตรวจสอบว่าใช่พี่สาวของตนหรือไม่ แต่พ่อกับแม่ไม่กล้าไปพบพนักงานสอบสวน เพราะหากใช่พี่สาวจริงพ่อกับแม่กลัวที่จะทำใจไม่ได้ ตนจึงเดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงส์ เพื่อสอบถาม พร้อมให้ข้อมูลรูปร่างหน้าของพี่สาวให้เจ้าหน้าที่ทราบ

พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี แถลงต่อว่า หลังจากได้ข้อมูลจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฐานทะเบียนราษฎร์ และนำลายพิมพ์นิ้มมือของ น.ส.กัลยา และลายพิมพ์นิ้วมือของศพส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 ตรวจสอบผลออกมาปรากฏว่า ตรงกัน เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าผู้ตายคือ น.ส.กัลยา จากนั้นจึงเร่งสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบว่า น.ส.กัลยา กับสามีคือนายแมน ได้มาเปิดร้านอาหารอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และ น.ส.กัลยา ได้ฝากครรภ์ไว้ที่โรงพยาบาลดังกล่าว โดยมีนายภัทรพล หรือแมน ลงทะเบียนว่าเป็นพ่อของเด็ก

ต่อมา วันที่ 21 เม.ย.57 นายภัรพล หรือแมน ได้ขับรถยนต์กระบะออกไปจากบ้าน โดยบอกกับเพื่อนบ้านว่า พาแฟนไปคลอดลูก และได้ลูกชาย โดยไม่ได้บอกว่าไปคลอดที่โรงพยาบาลอะไร หลังจากนั้น นายภัทรพล ก็ไม่ได้เปิดร้านขายอาหาร หน้าร้านติดป้านประกาศเซ้งร้านเอาไว้ หลังจากมีคนมาเซ้งร้านในราคา 30,000 บาท คนเซ้งได้จ่ายเงินมัดจำล่วงหน้า จำนวน 10,000 บาทที่เหลือจะจ่ายให้ทีหลัง จากนั้น นายภัทรพล ก็ได้ได้หายตัวไป จากการสืบสวนจนทราบว่า นายภัทรพล ได้นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปขายที่เต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดราชบุรี

ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 470/2557 ลงวันที่ 9 ก.ย.2557 จากการสืบสวนในเชิงลึกจนทราบว่า นายภัทรพล หรือแมน ได้หลบหนีไปอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา โดยญาติมีอาชีพทำเรือประมง เจ้าหน้าที่จึงติดตามไป

จนกระทั่งวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบตัว นายภัทรพล หรือแมน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในแพพัก เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้ จากนั้นจึงนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.คุระบุรี และยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าถ่วงน้ำ น.ส.กัลยา จริง เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวมาแถลงข่าวที่ ภ.จว.กาญจนบุรี และนำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะแถลงข่าวผู้ต้องหาให้การว่าสาเหตุที่ลงมือฆ่าแฟนสาวที่กำลังตั้งท้องเป็นเพราะเกิดความโมโห ที่สั่งให้ภรรยาตำน้ำพริกให้กิน แต่ไม่ทันใจ จึงเกิดการโต้เถียงกัน ด้วยความโมโหจึงใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพขึ้นรถยนต์กระบะไปทิ้งลงในแม่น้ำแม่กลอง พื้นที่หมู่ ต.เขาน้อย คือจุดที่พบศพขณะโยนศพลงไปในน้ำประกฏว่าศพไม่จมจึงใช้เชือกผูกแขน และขาทั้งสองข้างไขว้หลัง และนำอิฐบล็อกมาผูก และถ่วงศพลงไปใต้น้ำ จากนั้นจึงกลับมาที่บ้าน และประกาศเซ้งร้านหลังจากได้เงินจึงหลบหนีไปอยู่กับญาติที่ จ.พังงา

ขณะเจ้าหน้าที่กำลังทำการแถลงข่าว ได้มี นายวิเชียร นางวาสนา ประทุมเมือง พ่อและแม่ของ น.ส.กัลยา และ น.ส.จิรัชยา ประทุมเมือง น้องสาว รวมทั้งญาติ และเพื่อนบ้านกว่า 50 คน เดินทางมาดูการแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องสวมเสื้อเกาะให้แก่ผู้ต้องหาเพราะเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงแล้วเสร็จ

โดยขณะแถลงข่าวทุกคนต่างตะโกนสาปแช่ง นายภัทรพล ผู้ต้องหาอย่างรุนแรง ทำให้นายภัทรพล ถึงกับน้ำตาไหลออกมา และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวผู้ต้องหาเดินออกจากโต๊ะแถลงข่าว ญาติจำนวนหนึ่งได้วิ่งฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปประชาทัณฑ์เพื่อระบายแค้น แต่เจ้าหน้าที่สามารถกันเอาไว้ได้ ขณะนั้นบรรยากาศตึงเครียดเป็นอย่างมาก

โดยครั้งแรกผู้ต้องหาต้องการกราบเท้าขอโทษพ่อและแม่ของผู้เสียชีวิต แต่พ่อและแม่ไม่อนุญาต เพราะยังทำใจไม่ได้ แต่สุดท้ายพ่อและแม่ของ น.ส.กัลยา ที่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมก็ยอมที่จะให้ผู้ต้องหากราบเท้าเพื่อขอขมาในที่สุด
 น.ส.กัลยา หรือ ตูน ประทุมเมือง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/9 หมู่ 4 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้เสียชีวิต
นายภัทรพล หรือแมน จิตรธรรม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ 1 ต.วังขนาย อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหา


กำลังโหลดความคิดเห็น