ระยอง - เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองระยอง ตามรวบได้แล้วมือฆ่าโหด 2 ผัวเมียหมกห้องเช่าที่เมืองระยอง ที่แท้เป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ
วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้ค้อนเหล็กทุบใบหน้านายอุทัย งามละมัย อายุ 35 ปี ช่างเชื่อมรถแบ็กโฮอู่ประเสริฐ และนางสุจินต์ จิตรน้อม อายุ 40 ปี สองสามีภรรยาจนเสียชีวิต และใช้มีดปลายแหลมจ้วงแทงที่ท้องจนพรุนแล้วใช้เชือกไนลอนมัดคอ ใช้มุ้ง ผ้าห่ม และผ้าขาวม้าห่อศพทิ้งในห้องเช่าหมู่ 1 ต.กองดิน อ.ปากน้ำประแสร์ จ.ระยอง จนศพส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว ต่อมา ตำรวจ สภ.ปากน้ำประแสร์ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุจนทราบว่า คนร้ายก่อนหลบหนีได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำตาล ทะเบียน บจ 9624 นครนายก ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย
กระทั่งต่อมาตำรวจ สภ.ปากน้ำประแสร์ นำโดย พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ศรีสุพรรณ รอง ผกก.สส.สภ.ปากน้ำประแสร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ระยอง ได้สืบทราบว่า เพื่อนร่วมงานที่อู่ประเสริฐ ซึ่งพักอยู่ห้องเช่าติดกันกับห้องของผู้ตาย หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป ทราบชื่อคือ นายวิรัตน์ ศุภฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 3 ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
อีกทั้งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทราบว่า รถยนต์ของผู้ตายวิ่งไปทาง จ.จันทบุรี จึงนำกำลังติดตามจับกุม นายวิรัตน์ ศุภฤทธิ์ ได้ที่บริเวณลานจอดรถสวนสุขภาพ บ้านผักกาด หมู่ 4 ต.คลองใหญ่ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี พร้อมของกลางรถยนต์กระบะแค็บ ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำตาล ทะเบียน บจ 9624 นครนายก สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท 1 เส้น โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย ซึ่งเป็นของผู้ตาย โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง 1 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มของ นางสุจินต์ และบัตรประชาชนของนายอุทัย ผู้ตาย เงินสด 9,160 บาท พระเครื่อง 9 องค์ จึงควบคุมตัวมาแถลงข่าวที่ สภ.ปากน้ำประแสร์
พ.ต.อ.วัลลภ สามารถ ผกก.สภ.ปากน้ำประแสร์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายวิรัตน์ ศุภฤทธิ์ พบว่า เป็นเพื่อนร่วมงาน และพักอยู่ห้องเช่าติดกันกับนายอุทัย ผู้ตาย ที่เป็นช่างเชื่อมรถแบ็กโฮอู่ประเสริฐ ใกล้ห้องเช่าที่เกิดเหตุก่อนเกิดเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำรถมาซ่อมที่อู่ และติดค้างเงินค่าซ่อม ทำให้ นางสุจินต์ ผู้ตาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีปิดบัญชีไม่ได้ จึงทวงถามเงินค่าซ่อมที่ติดค้าง
ประกอบกับ นายอุทัย สามีนางสุจินต์ เกิดความระแวงว่าผู้ต้องหาจะไปชอบนางสุจินต์ จนในคืนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้เข้าไปนั่งคุยกับผู้ตาย จนเกิดมีปากเสียงกัน โดยผู้ต้องหาถูกต่อว่าไปชอบเมียเพื่อน ผู้ต้องหาจึงคว้าค้อนเหล็กทุบไปที่ใบหน้านายอุทัย จนล้มฟุบ นางสุจินต์ จึงส่งเสียงร้องจากนั้นจึงใช้ค้อนเหล็กทุบหน้า และใช้มีดแทงซ้ำฟุบแน่นิ่งไปอีกคน
จากนั้นจึงทำการห่อศพเตรียมจะแบกศพขึ้นรถไปทิ้ง แต่แบกไม่ไหวจึงหอบทรัพย์สินแล้วขับรถยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป จนถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ในที่สุด