ตร.ราชบุรีรวบหนึ่งในแก๊งลอบตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ของกลางเพียบ

ราชบุรี - ตำรวจบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี รวบหนึ่งในแก๊งลักลอบตัดสายเคเบิลโทรศัพท์ขาย ได้ผู้ต้องหา 1 ราย พร้อมของกลางหลายรายการ ขณะที่เพื่อนร่วมแก๊งยังหลบหนี สารภาพทำร่วมกันทั้งหมด 5 คน โดยจะตระเวนลักตัดสายโทรศัพท์ในพื้นที่นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (10 ก.ย.) พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ชาติชาย นาถึง รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง พ.ต.ท.ธารา ศรีพรมคำ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านโป่ง ได้นำตัว นายพาน สะเอ๊บ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/3 หมู่ 3 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นหนึ่งในจำนวนแก๊งลักตัดสายโทรศัพท์ที่ถูกจับกุมมาแถลงข่าวที่หน้า สภ.บ้านโป่ง พร้อมของกลางคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 4 ตัว สายโทรศัพท์ของบริษัท ทีโอที ยาว 97 เมตร รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบอรนซ์ ทะเบียน ผก 5590 นครปฐม

สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บ้านโป่ง พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัท ทีโอที จำกัด สาขาบ้านโป่ง ได้ไล่ติดตามคนร้ายก่อเหตุลักตัดสายเคเบิลโทรศัพท์บนถนนสายบ้านม่วง-สร้อยฟ้า บริเวณหน้าวัดบัวงาม หมู่ 1 ต.บ้านม่วง อ.บ้านโป่ง ซึ่งแก๊งคนร้ายได้ขับรถคันดังกล่าวหนีเจ้าหน้าที่จนรถยนต์เสียหลักตกลงในคูข้างทางห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กม.คนร้ายได้ทิ้งรถยนต์ และสายเคเบิลโทรศัพท์เอาไว้แล้วพากันหลบหนีไป และทางเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า นายพาน เป็นหนึ่งในแก๊งคนร้าย ต่อมาถูกจับกุมตัวไว้ได้

จากการสอบสวน นายพาน ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับเพื่อนอีก 5 คน ที่หลบหนีอยู่ขณะนี้ออกตระเวนลักตัดสายโทรศัพท์ในพื้นที่ จ.นครปฐม จ.สุพรรณบุรี จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี โดยนายพาน จะมีหน้าที่ปีนขึ้นบนเสาไฟฟ้าใช้คีมตัดสายโทรศัพท์ลงมา จากนั้นจะมีเพื่อนร่วมแก๊งคอยดูต้นทาง และคอยเก็บสายโทรศัพท์ขึ้นท้ายรถ โดยจะได้ค่าจ้างปีนขึ้นไปตัดครั้งละ 1,000 บาท

สำหรับสายโทรศัพท์ที่ได้มาเพื่อนร่วมแก๊งจะนำเอาไปเผาไฟเพื่อเอาทองแดงแล้วนำไปขายตามร้านค้าของเก่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลราชบุรี ติดตามจับกุมพรรคพวกร่วมแก๊งทั้งหมดที่หลบหนีต่อไป

นายสุพจน์ พุกสุริย์วงศ์ หัวหน้าโทรศัพท์ บริษัท ทีโอที จำกัด จ.ราชบุรี กล่าวว่า ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นมา ถูกคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิลโทรศัพท์มาแล้วกว่า 30 ครั้ง มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท สำหรับมูลค่าความเสียหาย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครั้งนี้ประมาณ 2.5 แสนบาท