กาญจนบุรี - ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี เผยชาวกาญจน์ยังกังขาจังหวัดเร่งจ่ายเงินซ่อมสะพานมอญให้ผู้รับเหมา 10 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสงสัยจังหวัดเป็นฝ่ายได้เปรียบทำไมไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับเหมา และทำไมถึงต้องรีบจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาภายใน 7 วัน ทั้งที่ผู้รับเหมายังทำงานไม่เสร็จตามสัญญา ลั่นปัญหาไม่จบง่ายแน่หากจังหวัดยังยังยืนกรานที่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับเหมา
วันนี้ (8 ก.ย.) นายธวัช ไตรรุ่งตระกูล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี เปิดเผยกรณีที่จังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้ว่าจ้างได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับ หจก.ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้รับจ้างซ่อมบูรณะสะพานไม้ หรือสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยจังหวัดจะจ่ายเงินค่าปริมาณงานให้ผู้รับจ้าง 10 ล้านบาท ภายใน 7 วันนับจากวันทำสัญญา (4 ก.ย.) ว่า จากการที่ตนเป็นเจ้าของพื้นที่ และได้สัมผัสกับชุมชนพบว่า ส่วนใหญ่ยังคงติดใจในประเด็นที่ทางจังหวัดจะต้องจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาเป็นจำนวนเงิน 10 ล้านบาท ซึ่งยังมีข้อกังขาคาใจในหลายประเด็นด้วยกัน
1.การที่ระบุว่า ผู้รับเหมาดำเนินการซ่อมแซมไปได้ 60.94% คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับงานหรือยัง หรือเป็นเพียงแค่เนื้องานที่ทำได้ 2.คุณภาพของงานเป็นไปตามสเปก และแบบรูป รวมทั้งเงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาจ้างหรือไม่ 3.ในเมื่อผู้รับเหมาทำงานไม่เสร็จตามเงื่อนไขสัญญา ทำไมจังหวัดจึงต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการของผู้รับเหมา
4.ทั้งๆ ที่จังหวัดเป็นฝ่ายได้เปรียบ ทำไมจึงไม่ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้รับเหมา 5.ทำไมจังหวัดถึงต้องรีบจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาภายใน 7 วัน ทั้งๆ ที่ผู้รับเหมายังทำงานไม่เสร็จตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ระบุว่าผู้รับเหมาจะต้องดำเนินการตอกเสาเข็มจำนวน 5 ตับ ที่เหลืออยู่ให้เสร็จสิ้น เป็นต้น
ส่วนของคณะกรรมการไกล่เกลี่ยปัญหาการซ่อมแซมบูรณะสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ แต่ละท่านที่เข้าร่วมประชุมนั้น ไม่ทราบว่ามีข้อมูลเชิงลึกในรายละเอียดของงานหรือไม่ ก่อนที่จะรวบรัดพิจารณาจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมา ความจริงควรจะต้องมีขั้นตอนของการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อพิจารณาในของการประเมินราคา ชดเชยให้แก่ผู้รับเหมา โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญและชำนาญทางด้านวิศวกรรมจากที่อื่นมาร่วมพิจารณาเพื่อความชัดเจน โปร่งใส่ และเป็นธรรม
“หากจังหวัดสรุปง่ายๆ เช่นนี้ ก็จะเกิดข้อครหาตามมาภายหลังว่าจังหวัดอาจมีส่วนได้เสียกับผู้รับเหมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางจังหวัดไม่เคยนำเอกสารหลักฐานใดๆ ออกมาชี้แจงต่อสาธารณชน จึงทำให้คนส่วนใหญ่มองว่าไม่โปร่งใส ผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคเงินมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้นำไปซ่อมสะพานก็ควรจะนำไปใช้กับการซ่อมสะพาน แต่ไม่ควรนำไปจ่ายชดเชยให้แก่ผู้รับเหมา”
นายธวัช ไตรรุ่งตระกูล ส.อบจ.กาญจนบุรี เขต อ.สังขละบุรี กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับเหมา เบื้องต้นทุกฝ่ายทั้งทหารช่าง ผู้ควบคุมงาน เห็นพ้องต้องกันว่า จะต้องทำการรื้อไม้บางส่วนทิ้ง เพราะไม่ได้คุณภาพมาตรฐาน และไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้กล่องเกเบียน เนื่องจากเสาเข็มที่ปักลึกลงไปใต้ดินมีความลึกมากกว่า 4 เมตร สามารถพยุงความแข็งแรงคงทนได้ แต่การที่ผู้รับเหมาไม่ได้ใช้ไม้แดงมาทำเสาเข็ม อีกทั้งใช้ไม้สด และไม่ได้ขนาดก็จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรง ซึ่งไม้เสาเดิมที่เก็บกู้ขึ้นมาได้เป็นไม้ขนาดใหญ่ และมีคุณภาพ หากนำมาทำเสาเข็มก็จะทำให้ฐานรากมั่นคงแข็งแรงกว่า
ในส่วนของการดำเนินการซ่อมสะพานต่อเป็นเรื่องดีที่ทหาร วัด ชุมชน มาร่วมกันทำ และเชื่อว่าเมื่อประชาชน และผู้มีจิตศรัทธาทราบข่าวก็จะบริจาคเงินเพิ่มเติมเข้ามาที่วัด เพราะเชื่อว่าจะสามารถซ่อมแซมได้ดีกว่า และเร็วกว่าที่ผู้รับเหมาทำ เพราะสะพานแห่งนี้เป็นสะพานแห่งศรัทธาไม่ใช่เป็นสะพานผู้รับเหมา
“ผมมองว่าจังหวัดดำเนินการผิดมาตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่ควรจะหารือ และทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายให้เห็นตรงกันเสียก่อน ก่อนที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง จึงทำให้ปัญหาบานปลายและไม่จบลงง่ายๆ แน่ หากจังหวัดยังคงยืนกรานที่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้รับเหมา แล้วคนสังขละบุรีได้อะไรชดเชยบ้าง”