กำแพงเพชร - ชาวบ้านตำบลนาบ่อคำ รวมตัวเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ช่วยเหลือหลังถูกคณะกรรมการยักยอกเงิน แจ้งตำรวจอ้างเป็นคดีแพ่งให้ไปฟ้องศาลเอาเอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม ให้รวบรวมรายชื่อที่ถูกโกงมาทั้งหมดเพื่อส่งเรื่องให้ผู้ว่าฯ
นายสมัย สุนุรัตน์ ประธานสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยสมาชิกกองทุนหมู่บ้านตำบลนาบ่อคำ กว่า 10 คน เดินทางร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังถูกคณะกรรมการสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ ยืมเงินกว่า 1 ล้าน และเงินจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านอีกรวมกว่า 10 ล้าน โดยมีนายบัณฑิต ไกรเกษ และนายวรรณพงษ์ ไกรสรศิวเวท เจ้าหน้าที่สืบสวน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกำแพงเพชร รับเรื่องร้องทุกข์
นายสมัย สุนุรัตน์ ประธานสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ เปิดเผยว่า ในตำบลนาบ่อคำ มีกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 22 แห่ง และมีสถานบันการเงินตำบลนาบ่อคำ 1 แห่ง โดยกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 15 กำลังประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ทางสมาชิกจึงลงมติให้ทำการขอกู้ยืมเงินจากสถานบันการเงินตำบลนาบ่อคำ จำนวนกว่า 1 ล้านบาท โดยได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้น ทางสถาบันการเงินนาบ่อคำ ได้ให้เหรัญญิกของสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ เดินทางไปพร้อมกับกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 15 นำเงินไปเข้าบัญชีธนาคารกองทุนหมู่บ้านที่ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
จนเวลาผ่านไปได้ 3 เดือน พบว่า เงินทั้งหมดยังไม่มีการนำเงินเข้าบัญชีกองทุนหมู่บ้านเลย จึงได้มีการทวงถามบุคคลทั้ง 2 จนทราบข้อเท็จจริงว่า เงินทั้งหมดถูกนำไปใช้ส่วนตัวหมดแล้ว จึงได้นำเรื่องเข้าที่ประชุม โดยมีคณะกรรมการสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ มีมติตรงกันว่า ให้บุคคลทั้งสอง คือ เหรัญญิก และกรรมการกองทุนหมู่บ้านหมู่ที่ 15 นำเงินมาคืนทั้งหมด ซึ่งทั้งสองก็ยินยอมที่จะนำเงินมาคืนชดใช้ให้ แต่ขอผ่อนส่งเป็นรายเดือน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 แต่ก็ไม่ส่งเงินตามกำหนด ผัดผ่อนส่งมาเรื่อยๆโดยอ้างว่าเงินไม่พอส่ง
นอกจากนี้ เหรัญญิกสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ ได้ไปขอกู้ยืมเงินจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านอื่นๆ อีกหลายคน แต่ละคนหลักแสนจนถึงหลักล้าน ร่วมเงินทั้งหมดกว่า 10 ล้าน สร้างความเดือดร้อนให้แก่สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และสถาบันการเงินตำบลนาบ่อคำ จึงได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร โดยลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2557 ปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้รับการชดใช้เงินทั้งหมดเลย จึงรวมตัวกันเดินทางมายื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อขอความช่วยเหลือติดตามเรื่อง
ด้านเจ้าหน้าที่สืบสวนศูนย์ดำรงธรรม หลังจากรับแจ้งเรื่องดังกล่าวแล้วได้ตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน เพราะมีผู้เสียหาย และเงินจำนวนมาก จึงให้เขียนคำร้อง และให้ผู้เสียหายทั้งหมดที่อ้างว่ามีเป็นร้อยรายถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนแนบมา เพื่อจะได้ยืนหนังสือคำร้องดังกล่าวถึง นายสุรพล วานิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชรพิจารณา จากนั้นได้แนะนำให้รวมตัวกันไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ถ้าทางตำรวจเห็นว่าเป็นคดีแพ่งให้ไปฟ้องร้องเอง ก็ให้มาแจ้งที่ศูนย์ดำรงธรรมอีก เพื่อจะได้นำเรื่องเสนอให้
พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจทราบ และจะได้ยื่นเรื่องให้ทางอัยการฟ้องร้องให้ โดยจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของระเบียบก่อน หลังจากที่ชาวบ้านได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ก่อนเดินทางกลับได้บอกว่าจะไปรวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจอีกครั้ง
