ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตร.โคราช รวบเครือข่ายค้ายาบ้านายทุนชาวลาว ได้ผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางยาบ้า 1.7 หมื่นเม็ด และรถยนต์ 2 คัน เผยน้องเขยชวนพี่เมียหาเงินทางลัดรับจ้างขนยาบ้า ได้ค้าจ้าง 1 แสน สารภาพทำมาแล้ว 2 ครั้ง เหิมขนมากขึ้นแต่ถูกตำรวจรวบตัวได้ก่อน
เมื่อเวลา 09.30 น .วันนี้ (4 ก.ย.) ที่บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.กรกตสาริยา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวิฒน์ สีลาเขต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้าเครือข่ายนายทุนชาวลาว ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายสิทธิกร หรือเอ พลยงค์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/3 หมู่ 4 ต.วังตะแบก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร และ น.ส.มลฤดี หรือนุ่น สินกระทำ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นพี่สาวภรรยา นายสิทธิกร
พร้อมของกลางยาบ้ารวม 17,893 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน ฆบ 3850 กทม. และรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต แบบแค็บ สีขาว ทะเบียน บต 3347 นครพนม โทรศัพท์มือถืออีก 4 เครื่อง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำยาบ้าเข้ามาส่งในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา ผ่านเส้นทางถนนมิตรภาพ จึงประสาน ตำรวจ สภ.โนนสูง ตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณติดปั๊มน้ำมัน ต.ตลาดแค อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ในระหว่างตั้งด่านพบรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออส สีดำ ทะเบียน ฆบ 3850 ที่ น.ส.มลฤดี เป็นคนขับ มาจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามด่านตรวจ ท่าทางมีพิรุธ และโทรศัพท์ตลอดเวลา จึงจัดกำลังเฝ้าประกบ
จากนั้นได้มีรถยนต์กระบะเชฟโรเลต สีขาว ทะเบียน บต 3347 นครพนม มี นายสิทธิกร เป็นคนขับได้ขับเข้ามาที่ด่านตรวจท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นอย่างละเอียด พบของกลางยาบ้าทั้งหมด 17,893 เม็ด บรรจุในกระเป๋าสีแดงวางอยู่เบาะนั่งข้างคนขับ จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
นายสิทธิกร ให้การรับสารภาพว่า รับจ้างนายทุนชาวลาวในราคา 100,000 บาท ให้นำยาบ้าทั้งหมดจาก จ.นครพนม มาส่งลูกค้าที่ ตลาดแค จ.นครราชสีมา โดยมี น.ส.มลฤดี ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยา ทำหน้าที่ขับรถนำหน้าเพื่อดูเส้นทาง โดยก่อนหน้านี้ เคยรับจ้างนายทุนคนเดียวกันมาแล้ว 2 ครั้ง ในราคาเที่ยวละ 60,000 บาท ซึ่ง 2 ครั้งแรก ทำเพียงลำพัง และได้เงินมาใช้ง่ายๆ แต่ครั้งนี้รับจ้างขนยาบ้าจำนวนมากขึ้น และได้ค่าจ้างมากขึ้น จึงชวน น.ส.มลฤดี มาทำหน้าที่ขับรถนำหน้าดูเส้นทางให้ โดยจะให้ส่วนแบ่ง 2 หมื่นบาท แต่กลับมาถูกจับกุมได้ก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งคู่ ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป